Main navigation
ภพ
Share:

(๑)  ภพ เป็นหนึ่งในเหตุปัจจัยใน ปฏิจสมุปบาท เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ   เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

ภพ ๓ เหล่านี้คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ นี้เรียกว่าภพ

(๒)  ความเกิดใหม่ในภพเกิดจากความยินดียิ่งในอารมณ์ ของสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกีดกัน มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบ

เมื่อสิ้นอวิชชา เมื่อวิชชาเกิด และตัณหาดับ ความเกิดในภพใหม่ในอนาคตจะไม่มี

(๓) กิเลสเครื่องนำไปในภพ

ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิดเพลิน ความทะยานอยาก ความเข้าถึง ความยึดมั่น อันเป็นที่ตั้งที่อยู่อาศัยแห่งจิต ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณนี้เรากล่าวว่า กิเลสเครื่องนำไปในภพ

เพราะความดับสนิทแห่งกิเลสเหล่านั้น เรากล่าวว่าเป็นธรรมที่ดับสนิทแห่งกิเลสเครื่องนำไปในภพ

(๔) ภพ ย่อมมีได้ด้วยเหตุเพียงไร

กรรมที่อำนวยผลให้ในกามธาตุไม่มีแล้ว กามภพไม่พึงปรากฏ

เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างเลวของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วย
ประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก

ก็กรรมที่อำนวยผลให้ในรูปธาตุไม่มีแล้ว รูปภพไม่พึงปรากฏ

เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างกลางของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจ ด้วย
ประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก

ก็กรรมที่อำนวยผลให้อรูปธาตุจักไม่มีแล้ว อรูปภพไม่พึงปรากฏ

เหตุนี้แล กรรมจึงชื่อว่าเป็นไร่นา วิญญาณชื่อว่าเป็นพืช ตัณหาชื่อว่าเป็นยาง เจตนา ความปรารถนาประดิษฐานแล้ว เพราะธาตุอย่างประณีตของสัตว์พวกที่มีอวิชชาเป็นเครื่องสกัดกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูกใจด้วยประการฉะนี้ จึงมีการเกิดในภพใหม่ต่อไปอีก

ภพย่อมมีได้ด้วยเหตุดังกล่าวมาฉะนี้แล 

(๕) เปรียบเหมือนคูถแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีกลิ่นเหม็น ฉันใด ภพแม้เพียงเล็กน้อย ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เราไม่สรรเสริญโดยที่สุด
แม้ชั่วกาลเพียงลัดนิ้วมือเดียวเลย

(๖)  เมื่อใดบุคคลรู้ชัดซึ่งภพ เหตุเกิดแห่งภพ ความดับภพ และปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับภพ แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ บุคคลชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นดำเนินไปตรงแล้ว ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้

ก็ภพ  เหตุเกิดแห่งภพ ความดับภพ และปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับภพ เป็นไฉน

ได้แก่ ภพ ๓ เหล่านี้ คือ กามภพ (ภพที่เป็นกามาวจร) รูปภพ (ภพที่เป็นรูปาวจร) อรูปภพ (ภพที่เป็นอรูปาวจร)

เหตุเกิดแห่งภพ ย่อมมีเพราะอุปาทานเป็นเหตุให้เกิดความดับภพ ย่อมมีเพราะอุปาทานดับ

อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ นี้แหละ คือ ความเห็นชอบ ดำริชอบ เจรจาชอบ การงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ พยายามชอบ ระลึกชอบความตั้งใจชอบ ชื่อว่าปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับภพ

เมื่อใดบุคคลรู้ชัดซึ่งภพ เหตุเกิดแห่งภพ ความดับภพ และปฏิปทาที่จะให้ถึงความดับภพอย่างนี้ๆ เมื่อนั้น ท่านละราคานุสัย บรรเทาปฏิฆานุสัย ถอนทิฏฐานุสัย และมานานุสัย โดยประการทั้งปวง ละอวิชชา ยังวิชชาให้เกิด ย่อมกระทำซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ในปัจจุบันเทียว

แม้ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ บุคคลชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นดำเนินไปตรงแล้ว ประกอบด้วยความเลื่อมใสอันแน่วแน่ในธรรม มาสู่พระสัทธรรมนี้

 

 

อ้างอิง:
(๑)  วิภังคสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๖ ข้อที่ ๕, ๘ หน้า ๒-๓
(๒)  มหาเวทัลลสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๔๙๘ หน้า ๓๘๒
(๓)  ภวเนตติสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ ข้อที่ ๓๖๘
(๔)  ภวสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๐ ข้อที่ ๕๑๗ หน้า ๒๑๒-๒๑๓
(๕) อุปมาภพ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๐/๒๐๓/๓๖
(๖) สัมมาทิฏฐิสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ ข้อที่ ๑๑๙ หน้า ๖๗
 

 

 

คำต่อไป