เรานั้นเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร ส่งตนไปในธรรมอยู่
ย่อมรู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย
และรู้สึกแสงสว่างอย่างหาประมาณมิได้ เห็นรูปอย่างหาประมาณมิได้
ตลอดกลางคืนบ้าง ตลอดกลางวันบ้าง
ตลอดทั้งกลางคืนและกลางวันบ้าง
เราจึงมีความดำริว่า
อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
ให้เรารู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย
และรู้สึกแสงสว่างอย่างหาประมาณมิได้ เห็นรูปอย่างหาประมาณมิได้
เรานั้นได้มีความรู้ดังนี้ว่า
สมัยใด เรามีสมาธินิดหน่อย
สมัยนั้น ก็มีจักษุนิดหน่อย
ด้วยจักษุนิดหน่อย เรานั้นจึงรู้สึกแสงสว่างเพียงนิดหน่อย เห็นรูปได้นิดหน่อย
ส่วนสมัยใด เรามีสมาธิหาประมาณมิได้
สมัยนั้น ก็ทรงมีจักษุหาประมาณมิได้
ด้วยจักษุหาประมาณมิได้ เรานั้นจึงรู้สึกแสงสว่างหาประมาณมิได้ และเห็นรูปหาประมาณมิได้