Main navigation

ธรรมะกระจ่าง - การเจริญภาวนาและการบรรลุธรรม

เนื้อหาในส่วนนี้ คัดลอกมาจากการถาม-ตอบในช่วง ธรรมะกระจ่าง ของหลักสูตรปฏิบัติธรรม Wisdom Exploration  ข้อความบางส่วนถูกดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อให้เหมาะสมกับการเผยแพร่เป็นงานเขียน

 

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ

    เราต้องประหารกิเลสในช่วงสมาธิเลยไหม  (new)

    ที่มาปฏิบัตินั่งสมาธิ ผมยังวอกแวกอยู่ตลอดเวลา อาจารย์มีวิธีอะไรเพิ่มเติมไหมครับ  (new)

    ฝึกปฏิบัติมาประมาณปีกว่าๆ เกือบ 2 ปี รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาในการทำสมาธิ เพราะจิตตัวเองไม่มีกำลัง เวลานั่งสมาธิจิตชอบซัดส่าย แล้วก็ไม่สามารถอยู่ในอารมณ์เดียวได้ รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำว่าควรจะทำอย่างไร

    ที่บอกว่าเข้าสมาธิลึกๆ ให้ถึงอุเบกขาแล้วจึงพิจารณาทุกข์ แสดงว่าในฌาน หนึ่ง สอง สาม ที่มันมีวิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคตา ยังต้องรักษาสุขเอาไว้ก่อน ไม่ต้องพิจารณาสุขในตอนนั้น แต่ให้พิจารณาความไม่เป็นตนหรือพิจารณาความไม่เที่ยงแทนใช่หรือไม่ 

    ทำไมนั่งสมาธิได้ดีกว่าเดินจงกรม เดินจงกรมนี่เดินหลับในเลย

    เข้าสมาธิไม่ได้ คือเข้ามาแล้วก็เหมือนมันหายไป มันวูบไป แล้วก็รู้ตัวมาต่อ แล้วก็วูบไปอีก มันไม่มีความสุขหรือเปล่า 

    ถ้าเราจะบอกว่าเรานั่งสมาธิเพื่อให้ได้ฌานถูกหรือไม่ หรือว่าให้เข้าฌานเพื่อให้ได้สมาธิ

    เรามาปฏิบัติเพื่อจะเอาสภาวะดีๆ กลับบ้าน หรือเรามาปฏิบัติเพื่อให้เห็นสภาวะต่างๆ ซึ่งสภาวะมันก็มีทั้งดีและไม่ดี เพื่อให้เรารู้จักสภาวะ เข้าใจสภาวะ และจำสภาวะได้ แล้วก็เห็นลักษณะของสภาวะนั้นว่ามันเป็นไตรลักษณ์ จนเราเข้าใจแล้วก็วางสิ่งนั้นได้

    คำว่าสมาธิ ฟังดูแล้วน่าจะปฏิบัติได้ แต่ไม่เคยทำได้เลย รบกวนอาจารย์ช่วยแนะนำด้วย

    เวลาที่เริ่มปฏิบัติแล้ว มันเพ่งเกินไป มันเครียด มันมีจริตอะไรบางอย่าง ควรมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร

    เวลานั่งสมาธิแล้วจิตมันฟุ้ง ก็ใช้สติจับ พอฟุ้งปุ๊บ ก็จับ แล้วก็ปล่อยวาง พอวางนิ่งปุ๊บ มันก็ขึ้นมาใหม่ แล้วมันก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ จะทำอย่างไรให้มันหยุดได้

    กรณีตั้งจิตไว้ที่จิต แต่พอทำสมาธิมันก็จะไปที่ฐานสมอง จะมีวิธีอะไรที่จะทำให้กลับจากที่สมองมาที่ใจ

    เวลากำหนดจิตให้มันลึกลงไป ไม่รู้ว่ามันจะลึกได้อย่างไร พอแผ่เหมือนพอจะรู้ว่ามันต้องไปทางแนวกว้าง แต่พอลึก ไม่แน่ใจว่าจะลงลึกได้อย่างไร

    ทำไมเข้าสมาธิทีไรหลับทุกที พยายามตั้งใจหรือปล่อยวางแล้ว อะไรก็แล้ว ก็ยังหลับ ... ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ได้อยากหลับ

    ที่อาจารย์บอกว่าให้แผ่จิตออก แล้วพอกลับมาให้เข้าไปให้ลึกลงกว่าเดิมที่เข้าไป ให้ดิ่งเข้าไป ทีนี้บางครั้ง เห็นชัดว่าครั้งนี้มันเข้าไปได้ลึก มันก็จะรู้ว่าครั้งนี้ลึก แต่จะมีหลายๆ ทีที่มันแยกไม่ออกว่าอันนี้มันลึกกว่าคราวที่แล้ว ก็เลยไม่แน่ใจการเข้าไปให้ลึก เราต้องบังคับมันหรือว่ามันเข้าไปอย่างไร เพราะว่ามันเกิดขึ้นโดยที่เราเองไม่รู้เลย

 

สภาวะที่ปรากฏ

    ถ้าสมมุติเราเข้าฌานหนึ่งและสามารถที่จะทรงในฌานนั้นๆ จิตมันจะค่อยๆ พัฒนาเป็นฌานที่สอง ที่สามด้วยตัวมันเองถ้าเราตั้งมั่นได้ใช่หรือไม่ (new)  

    วันนี้พอนั่งสมาธิปั๊ป  มันหลับไปเลย  คือเหมือนกับควบคุมสติอะไรไม่ได้  เหมือนกับเราเข้าสมาธิได้  แล้วไม่ทราบไปไหน สติสูญเสียไป หรือจิตมันล่องลอยไปไหนไม่ทราบ เหมือนกับเราไม่ได้ทำสมาธิ  (new)

    การมาปฏิบัติครั้งนี้รู้สึกว่ามันได้ศูนย์กลางดี ข้างในมันโล่งๆ แต่ว่ามีอยู่ตัวหนึ่งที่จะไปสังเกตเห็นร่างกาย สังเกตเห็นกล้ามเนื้อบางส่วนที่มันตึง มันแน่น ก็ไปคลายมัน อยากจะถามว่าตัวที่ไปสัมผัสเห็น ไปสัมผัสความตึงตรงนั้น ใช่ตัวรู้หรือไม่ หรือมันเป็นความคิด แล้วก็เราสมควรทำแบบนั้นหรือเปล่า  (new) 

    เวลาที่เราเบา แล้วเราว่าง มันเหมือนกับมีแรงอะไรดันอยู่ตรงกลางอยู่ในตัว แล้วมันก็ขึ้นกระหม่อม สมอง  (new)

    ตอนที่นั่งจะมีช่วงที่นิ่ง แล้วก็มืดๆ ว่างๆ และได้ยินเสียงอาจารย์ชัดมาก  สักพักหนึ่งเสียงก็หายไป เงียบ สงัด แล้วก็มาอีกสักพักหนึ่งแล้วก็ได้ยินใหม่ ก็เลยสงสัยว่า ช่วงที่มันเงียบหายไป มันหายไปไหน รู้ยังอยู่ ยังรู้ว่ายังอยู่กับตัวเองอยู่  (new)

     มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยนั่งสมาธิแล้วไม่รับรู้ถึงท่อนล่าง คือเหมือนกับตั้งแต่เอวเราหายไปเลย  แต่เรายังรู้ตัวว่า ว่าเรารับรู้ คือรับรู้ว่ามันไม่มี ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  (new)

    เมื่อตอนที่ให้นอนแล้วให้ปล่อยวางทีละเรื่องๆ เรื่องอื่นวางแล้วก็เฉยๆ พอถึงเรื่องที่เป็นครอบครัว นึกถึงคุณพ่อ คุณแม่ นึกถึงพี่น้อง นึกถึงภรรยา นึกถึงลูกๆ ที่ตรงใจมันเต้น แล้วมันริกๆๆๆ เหมือนจะขาด คือความรู้สึกเหมือนมันจะขาดใจ

    เมื่อเราเข้าไปสู่จิตว่างแล้ว เมื่อไหร่ที่มันจะไประลึกรู้ในสิ่งที่ควรรู้ที่อยู่ในใจของเราเอง

    นอนไม่หลับมาสองคืนแล้ว มีความรู้สึกว่าอยากนอน แต่นอนไม่หลับ เหมือนจิตตื่น แล้วก็เดินพร้อมลมหายใจอยู่ตลอดเหมือนตอนที่ฝึก ทำให้เครียด ว่าทำไมเรานอนไม่หลับ...

    เมื่อวานเมื่ออยู่ในขั้นปิติจะเห็นแสงสีแดงบางๆ แต่เมื่อสักครู่ ปิติขึ้นมาอีกหนึ่งครั้ง แต่มีสีเหมือนเราหลับตา คือเป็นสีดำ ไม่มีขอบเขต แต่มีความรู้สึกว่าเข้าสู่สภาวะเบา รู้สึกว่าการหายใจไร้ขอบเขต อันตรายหรือไม่

    ด้วยความที่เริ่มจากพอง ยุบ แล้วพอต้องมาดูที่จิต ให้เห็นจิต คือเวลาหลับตา มันจะรู้สึกว่าเริ่มสามารถดูจิตได้ หลับตามันจะเห็นชัด แล้วที่อาจารย์บอกให้ทำต่อเนื่อง คือลืมตาให้รู้สึกอย่างนั้น พอลืมตามันไม่ค่อยชัดเท่า ก็เลยไม่แน่ใจว่า การที่พอหลับตาแล้วเห็นชัดนี่มันเป็นจินตนาการของเรา หรือเป็นสิ่งที่เราเห็นจริงๆ

    ตอนที่ไปปฏิบัติอีกที่หนึ่ง ท่านบอกให้เรานั่งโดยที่ไม่ต้องกำหนดอะไรเลย นั่งโดยไม่ต้องมีคำกล่าว พุทโธ หรือคำใดๆ เลยทั้งสิ้น ให้ดูแค่ลมหายใจแล้วไล่ดูเวทนาตั้งแต่ศรีษะลงมาถึงเท้า แล้วก็ไล่ขึ้น พอทำไปได้สักพักหนึ่ง ก็รู้สึกว่ามีคลื่นอะไรก็ไม่ทราบ ไหลไปทั่วตัวเลย อยากทราบว่านั่นคือการเพ่งกสินหรือเปล่า

    ไม่ได้เริ่มตั้งแต่การดูจิต เพราะเริ่มตั้งแต่ดูเวทนา พอมาดูที่จิต รู้สึกว่า หัวใจสัมผัสได้ถึงหัวใจ อันนี้ลงมาที่จิตแล้วยัง

 

กลับไปธรรมะกระจ่าง

-   อื่นๆ