บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีปรากฏอยู่ในโลก ๓ จำพวกเป็นไฉน คือ
คนตาบอด ๑
คนตาเดียว ๑
คนสองตา ๑
คนตาบอด
บุคคลบางคนในโลกนี้ ไม่มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
ไม่มีนัยน์ตาเครื่องรู้ธรรม ที่เป็นกุศลและอกุศล ที่มีโทษและไม่มีโทษ ที่เลวและประณีต ที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
โภคทรัพย์ย่อมไม่มีแก่คนตาบอดเลย และคนตาบอดย่อมไม่ทำบุญอีกด้วย โทษเคราะห์ ย่อมมีแก่คน ตาบอดเสียจักษุในโลกทั้งสอง
คนตาเดียว
บุคคลบางคนในโลกนี้มีนัยน์ตาอันเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
แต่ไม่มีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ รู้ธรรมที่เลวและประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
คนตาเดียวนั้นเป็นผู้คลุกเคล้ากับธรรมและอธรรม แสวงหาโภคทรัพย์โดยการคดโกง และการพูดเท็จ อันเป็นส่วนแห่งความเป็นขโมย ทั้งสองอย่าง ก็ผู้บริโภคกาม ย่อมเป็นคนฉลาดที่จะรวบรวมโภคทรัพย์ จากโลกนี้แล้วไปนรกย่อมเดือดร้อน
คนสองตา
บุคคลบางคนในโลกนี้ มีนัยน์ตาเป็นเหตุได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น
ทั้งมีนัยน์ตาเป็นเครื่องรู้ธรรมที่เป็นกุศลและอกุศล รู้ธรรมที่มีโทษและไม่มีโทษ รู้ธรรมที่เลวหรือประณีต รู้ธรรมที่มีส่วนเปรียบด้วยธรรมฝ่ายดำและฝ่ายขาว
คนสองตา เรากล่าวว่าเป็นบุคคลที่ประเสริฐสุด
คนสองตานั้น ย่อมให้ทรัพย์ที่ตนได้มาด้วยความหมั่นเป็นทาน แต่โภคะที่ตนหาได้โดยชอบธรรม เพราะเป็นผู้มีความดำริประเสริฐสุด มีใจไม่สงสัย ย่อมเข้าถึงฐานะอันเจริญ ซึ่งบุคคลไปถึงแล้วไม่เศร้าโศก
บุคคลควรเว้นคนตาบอด กับคนตาเดียวเสียให้ห่างไกล แต่ควรคบคนสองตา ซึ่งเป็นบุคคลผู้ประเสริฐสุด ฯ