Main navigation

บทความเกี่ยวกับน้ำ
ผมดื่มน้ำเยอะนะหมอทำไมยังป่วยอีก “ดื่มน้ำมากๆดีไหมหมอ” คุณสมชายถามผมด้วยความสงสัย
“แล้วคุณดื่มแค่ไหนล่ะ ที่ว่ามากน่ะ” ผมถามกลับ
“ก็วันละเกือบ 3 ลิตร หิวน้ำขึ้นมาก็ดื่ม ครั้งละ 1-2 แก้วแล้วแต่ว่าจะหิวแค่ไหน ตอนกิน ข้าวผมจะดื่มน้ำมาก เพราะอยากลดความอ้วนก็เลยดื่มน้ำมากๆจะได้อิ่ม ไม่ต้องกินอาหารมากๆอย่างนี้ผมทำถูกต้องไหมหมอ” คุณสมชายบรรยายให้ผมฟังถึงพฤติกรรมการดื่มน้ำ
“แล้วรู้สึกอึดอัด แน่นท้องบ้างไหม กระหายน้ำมากไหมดื่มน้ำเย็นหรือน้ำธรรมดา” ผมซักถามคุณสมชายต่อ..
“ผมดื่มน้ำเย็นจากตู้เย็นหรือถ้าไปกินอาหารข้างนอก ก็จะดื่มน้ำใส่น้ำแข็งเย็นๆ เพราะมันชื่นใจดีดับร้อน ดับกระหายได้ดี น้ำธรรมดามันไม่ชื่นใจ ดื่มแล้วคอมันร้อนๆ” คุณสมชายบอกผม
คนส่วนใหญ่รู้ดีกันอยู่แล้วว่าดื่มน้ำมากๆแล้วดีผู้ที่รักสุขภาพก็พยายามดื่มน้ำกันบางตำราบอกว่าตื่นตอนเช้าให้ดื่มน้ำมากๆ ดื่มเป็นลิตรเลยยิ่งดีถ้าดื่มก่อนแปรงฟันได้ก็ยิ่งดีใหญ่  แต่หลายท่านยิ่งดื่มน้ำมากกลับยิ่งป่วยที่ตั้งใจว่าจะดื่มน้ำเยอะๆลดความอ้วน ความอ้วนก็ไม่ลดลง กลับอ้วนขึ้นๆแถมยังท้องผูกถ่ายไม่ออกเสียอีก หลายท่านต่างงุนงงสงสัย  ไหนบอกว่าดื่มน้ำมากๆแล้วดี ความอ้วนก็ไม่ลด ถ่ายก็ไม่ออกแถมบางคนยังมีอาการตัวร้อนเป็นไฟอีก เหงื่อออกมากกว่าคนอื่นทำอะไรนิดหน่อยก็เหงื่อออกเต็มหน้าเต็มหลัง เช็ดเหงื่อกันทั้งวันผ้าเช็ดหน้าไม่พอ ต้องใช้ผ้าเช็ดตัวถึงจะพอ
น้ำนั้นทำให้เรือลอยก็ได้จมเรือก็ได้ ก็หมายความว่าทำให้สุขภาพเสียก็ได้เช่นกัน น้ำเป็นยาวิเศษที่หาง่ายและราคาถูกมากปัญหามีอยู่ว่า“เราจะใช้น้ำได้ถูกต้องถูกกาลเวลาไหม”
ลองปฏิบัติตามวิธีของผมดูบ้างถือเสียว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้ท่านแล้วกันถ้าปฏิบัติตามแล้วรู้สึกดีขึ้น ก็ขอให้ปฏิบัติกันต่อไปแต่ถ้ารู้สึกไม่เข้าท่า ไม่มีอะไรดีขึ้น จะหันหาวิธีอื่นๆก็ไม่ว่ากัน
ปริมาณน้ำที่ดื่มควรให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัวอาศัยความสมดุลของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ  ไม่ใช่ว่าน้ำหนัก 60 กิโลกรัมดื่มน้ำเข้าไป 3-4 ลิตร นั่นก็มากเกินไป น้ำเยอะไป ดินก็พังทลายเหมือนปัญหาน้ำท่วมที่ประเทศไทยประสบอยู่ในขณะนี้ ทั้งภูเขา สะพาน เขื่อนพังหมด เพราะน้ำมาก คิดดูสิครับขนาดสิ่งก่อสร้างที่แข็งแรงอย่างเขื่อนยังพังทลายได้เพราะน้ำแล้วร่างกายคนเราล่ะ ก็ย่อมมีโอกาสพังได้เหมือนกัน
สูตรการดื่มน้ำคือให้เอาน้ำหนักตัวของเรา เป็นกิโลกรัม คูณด้วย 2.2 เอาผลลัพธ์มาหาร ด้วย 2 แล้วคูณด้วย 30 ก็จะได้ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มเป็นหน่วยมิลลิลิตรตัวอย่าง เช่น
น้ำหนัก 60 กิโลกรัม
(60 X 2.2 X 30) / 2 = 1980 มิลลิลิตรหรือเท่ากับ 2 ลิตร1 ลิตรเท่ากับน้ำ 5 แก้วดังนั้นต้องดื่มน้ำประมาณ 10 แก้วต่อวัน
ร่างกายคนเราประกอบด้วยน้ำเกือบ70 เปอร์เซ็นต์ ในเลือดประกอบด้วยน้ำ 90 เปอร์เซ็นต์จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ มิฉะนั้นเลือดก็จะข้นจะหนืดการไหลเวียนก็จะไม่สะดวก อุดตันอยู่ในเส้นเลือด
“มีคนบอกว่าดื่มน้ำมากๆ ไตจะทำงานหนักจริงไหมหมอ” คุณสมชายถามผมต่อ
“ไตกำหนดน้ำ” ไตมีส่วนสัมพันธ์กับน้ำในร่างกาย เกี่ยวข้องกับการสร้างน้ำปัสสาวะและทำหน้าที่เหมือนเขื่อนคอยปิด-เปิด หรือคอยกักเก็บหรือปล่อยออกถ้าน้ำมากไปก็ล้นเขื่อนแล้วเขื่อนก็จะพัง น้ำน้อยไปเขื่อนก็จะแห้งผนังเขื่อนก็อาจแตกร้าวเพราะถูกแดดเผาดังนั้นเราต้องยึดหลักความสมดุลของธาตุทั้ง 4 เป็นหลัก  และถ้าหากว่า“ไต” เสียสมดุลขึ้นมา ก็จะเกี่ยวพันไปถึงระบบสืบพันธุ์ทั้งระบบไม่ว่าปัญหาที่เกิดกับมดลูก รังไข่อวัยวะเพศ และสมรรถภาพทางเพศก็จะรวนไปหมด อีกทั้งทำให้กระดูกบาง ผุ กร่อนได้ง่าย เพราะ “ไต” ที่คุมกระดูกนั้นพังไปแล้ว
เพราะฉะนั้นเราจึงควรดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัวของเราและดื่มให้ถูกต้องตามกาลเวลา ร่างกายท่านก็จะไม่มีปัญหาอีก  แต่วิธีการดื่มน้ำที่ถูกต้องตามหลักธรรมชาติบำบัดยังไม่หมดเท่านี้  ฉบับหน้าผมจะมาพูดต่อว่าควรดื่มน้ำอะไรและจะดื่มให้ถูกกาลเวลาทำอย่างไรติดตามได้ในฉบับหน้าครับ
ดื่มน้ำอะไรดี? ดื่มตอนไหน?  คุณสมศรี หน้าตาแดง คอแห้ง ลิ้นเป็นฝ้าเหลือง เหงื่อออกมากทำอะไรนิดหน่อยก็เหงื่อออก จุกแน่นลิ้นปี่ ลมแน่นท้อง เรอบ่อยพอนวดก็เรอออกแล้ว  เธอเล่าให้ฟังว่า  “ฉันดื่มน้ำเยอะนะหมอ ตื่นเช้าก่อนแปรงฟันก็ 5 แก้วแล้ว กินข้าวก็ดื่ม น้ำ3-4 แก้ว ก่อนนอนก็ดื่มน้ำอีกเป็นลิตร รวมๆแล้ววันหนึ่ง 2 ลิตรกว่าน่าจะพอนะหมอ”  เธอบอกผม
“แล้วดื่มน้ำอะไรละน้ำเย็นใช่ไหม” ผมถามดักคอไว้ก่อนเพราะดูจากรูปร่างลักษณะที่อ้วนฉุอย่างนี้น่าจะมาจากการชอบดื่มน้ำเย็นเป็นหลัก
“ต้องน้ำเย็นๆจึงจะดื่มได้ ดื่มแล้วจะรู้สึกเย็นคอ เย็นชื่นใจดี น้ำธรรมดามันไม่ชื่นใจถ้าแช่ช่องฟรีซให้เย็นเป็นวุ้นยิ่งสุดยอดยิ่งถ้าได้น้ำอัดลมสักขวดยิ่งดีใหญ่”
หลายท่านมีความเข้าใจว่า“ดื่มน้ำได้พอเพียงแล้ว” ร่างกายก็น่าจะดี แต่ทำไมยังเจ็บป่วย ตัวร้อนขาดน้ำอีก แล้วน้ำที่ดื่มเข้าไปมันไปไหนหมด ถึงขาดน้ำได้
ฉบับที่แล้วผมได้ยกตัวอย่างคนที่น้ำหนักตัว 60 กิโลกรัมเมื่อคำนวณปริมาณน้ำที่ควรดื่มแล้ว ควรดื่มน้ำ 2 ลิตรต่อวัน ซึ่งเท่ากับ10 แก้ว แต่ 10 แก้วที่ว่านี้ไม่ใช่ดื่มทีเดียวหมด ควรแบ่งดื่มทั้งวัน  โดยตอนเช้าดื่มก่อนแปรงฟันได้ก็ดี ดื่มสัก 2-5 แก้วเพื่อเป็นการชำระของเสีย
ออกจากร่างกาย โดยการเอาอุจจาระ ปัสสาวะออก
เหตุที่ให้ดื่มน้ำก่อนแปรงฟันนั้นก็เพื่อให้การดื่มน้ำเว้นระยะเวลาจากการทานอาหารเช้าให้มากๆจะทำให้อาหารได้ย่อยเสียก่อน จะได้อุจจาระหรือปัสสาวะก่อนที่จะออกไปทำงานถ้าไม่รีบๆดื่มน้ำเสียก่อน เดี๋ยวก็ต้องแวะถ่ายกลางทางคงไม่สนุกแน่ถ้าเป็นเช่นนั้นยิ่งถ้าใครอั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้ยิ่งแย่ไปกันใหญ่
ถ้าเราแปรงฟันก่อนดื่มน้ำก็อาจจะเลยเถิดทำธุระอย่างอื่น อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวเตรียมไปทำงานแล้วจนอาจจะลืมดื่มน้ำ ทีนี้จะดื่มมากๆไม่ได้แล้วก็จะไม่มีน้ำที่จะขับของเสียออกจากร่างกาย ของเสียก็ถูกดูดซืมเข้าไปใหม่แล้วค่อยดื่ม และอย่าดื่มครั้งละมากๆ เป็นแก้วหรือเป็นขวดเพราะน้ำจะไหลลงอย่างรวดเร็ว ลำไส้ดูดซึมไม่ทันแถมไตยังต้องทำงานหนักในการขับน้ำออกเป็นปัสสาวะถ้าไตทำงานหนักก็อาจจะเสื่อมได้ แถมจะทำให้ร่างกายขาดน้ำอีก
15 นาทีก่อนรับประทานอาหาร ระหว่างรับประทานอาหารหลังรับประทานอาหารหรืออิ่มใหม่ๆ อย่าดื่มน้ำมากนัก ควรดื่มไม่เกิน 1 แก้วเพื่อมิให้น้ำนั้นเข้าไปดับ “ไฟ" สำหรับย่อยอาหาร” ที่อยู่ในกระเพาะ ทานเสร็จแล้ว 40 นาที จึงค่อยดื่มน้ำต่อไปและน้ำที่ดื่มก็ไม่ควรดื่มน้ำเย็น
ผู้ป่วยมากมายที่ป่วยเพราะดื่มน้ำมากช่วงรับประทานอาหารอาหารก็ไม่ย่อย น้ำหนักก็เพิ่ม อึดอัด แน่นท้อง เรอ ปวดศีรษะ ไมเกรนและอีกมากมายหลายโรคที่เป็นสาเหตุมาจากอาหารไม่ย่อยโดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะคาดไม่ถึงว่า“การดื่มน้ำมากๆ ช่วงรับประทานอาหารจะทำให้เขาป่วยได้” เหมือนเส้นผมบังภูเขา เป็นเรื่องธรรมชาติที่เรามองข้ามกันไป
และมีหลายท่านถามว่า“ดื่มน้ำต้มสุกดีไหม” น้ำต้มสุกเป็นน้ำที่ตายแล้ว แร่ธาตุก็พากันตกตะกอนหมด เลี้ยงปลา ปลาก็ตายเพราะขาดสารอาหาร ดื่มน้ำที่กรองแล้วก็พอหรือถ้าให้ดีขึ้นดื่มน้ำอุ่นก็จะดีมากเพราะอุณหภูมิจะใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกายคนเราทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมน้ำได้ดี
ช่วงก่อนนอนเป็นอีกช่วงที่ไม่ควรดื่มน้ำมากนัก เพราะเวลานี้ไตต้องการพักผ่อนให้เขาได้พักผ่อนบ้าง การดื่มน้ำก่อนนอนมากๆแล้วต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะกลางดึกนั้นคงไม่ถูกต้องแน่ไม่ต้องหลับต้องนอนกันพอดีดื่มน้ำพอประมาณเพื่อไม่ให้เราต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะ
หลายท่านดื่มน้ำปริมาณพอเพียงแต่ดื่มตอนเช้า 5 แก้ว เย็น 5 แก้ว รวมแล้ว 2 ลิตรพอดี บอกว่า“ไม่ค่อยมีเวลาดื่มน้ำ เลยดื่มทีเดียวให้หมดภาระไปเลยจะได้ไม่เสียเวลาทำมาหากิน”  ผลก็คือท่านนั้นเลือดข้นหนืด เข้าไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อเส้นเอ็นไม่ได้จึงมีอาการกล้ามเนื้อแข็งตึงไปหมด ก้าวขาแทบจะไม่ออกหลังเหมือนแผ่นกระดาน  กดนวดไม่ลง หมอนวดเจอแล้วแทบวิ่งหนี (ถ้าหนีได้) นวดท่านนี้ท่านเดียวก็หมดแรงแล้ว กดเท่าไรก็เข้าไม่ถึงเส้นสุดท้ายกลายเป็นหมอนวดเดี้ยงเสียเองอย่าทรมานหมอนวดอย่างนี้เลยนะครับสงสารพรรคพวกผมบ้าง