Main navigation

ธรรม ๒ คือ

นาม ๑
และรูป ๑

อวิชชา ๑
และภวตัณหา ๑

ภวทิฐิ ๑
และวิภวทิฐิ ๑

ความไม่ละอาย ๑
และความไม่เกรงกลัว ๑

ความละอาย ๑
และความเกรงกลัว ๑

ความเป็นผู้ว่ายาก ๑
และความเป็นผู้มีมิตรชั่ว ๑

ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑
และความเป็นผู้มีมิตรดี ๑

ความเป็นผู้ฉลาดในอาบัติ ๑
และความเป็นผู้ฉลาดในการออกจากอาบัติ ๑

ความเป็นผู้ฉลาดในสมาบัติ ๑
และความเป็นผู้ฉลาดในการออกจากสมาบัติ ๑

ความเป็นผู้ฉลาดในธาตุ ๑
และความเป็นผู้ฉลาดในมนสิการ ๑

ความเป็นผู้ฉลาดในอายตนะ ๑
และความเป็นผู้ฉลาดในปฏิจจสมุปบาท ๑

ความเป็นผู้ฉลาดในเหตุที่เป็นได้ ๑
และความเป็นผู้ฉลาดในเหตุที่เป็นไปไม่ได้ ๑

การกล่าววาจาอ่อนหวาน ๑
และการต้อนรับ ๑

ความไม่เบียดเบียน ๑
และความสะอาด ๑

ความเป็นผู้มีสติหลงลืม ๑
และความเป็นผู้ไม่มีสัมปชัญญะ ๑

สติ ๑
และสัมปชัญญะ ๑

ความเป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
และความเป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในโภชนะ ๑

ความเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑
และความเป็นผู้รู้จักประมาณในโภชนะ ๑

กำลังที่เกิดแต่การพิจารณา ๑
และกำลังที่เกิดแต่การอบรม ๑

กำลังคือสติ ๑
และกำลังคือสมาธิ ๑

สมถะ ๑
และวิปัสสนา ๑

นิมิตที่เกิดเพราะสมถะ ๑
และนิมิตที่เกิดเพราะความเพียร ๑

ความเพียร ๑
และความไม่ฟุ้งซ่าน ๑

ความวิบัติแห่งศีล ๑
และความวิบัติแห่งทิฐิ ๑

ความถึงพร้อมแห่งศีล ๑
และความถึงพร้อมแห่งทิฐิ ๑
ความหมดจดแห่งศีล ๑
และความหมดจดแห่งทิฐิ ๑

ความหมดจดแห่งทิฐิ ๑
และความเพียรของผู้มีทิฐิ ๑

ความสลดใจ ๑
ความเพียรโดยแยบคายของผู้สลดใจแล้วในธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความสลดใจ ๑

ความเป็นผู้ไม่สันโดษในธรรมอันเป็นกุศล ๑
และความเป็นผู้ไม่ท้อถอยในการตั้งความเพียร ๑

วิชชา ๑
และวิมุตติ ๑

ญาณในความสิ้นไป ๑
และญาณในความไม่เกิด ๑