ธรรม ๓ อย่างที่มีอุปการะมาก คือ
การคบหาสัตบุรุษ ๑
การฟังธรรมของสัตบุรุษ ๑
การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑
ธรรม ๓ อย่างควรให้เจริญ คือ
สมาธิมีวิตกมีวิจาร ๑
สมาธิไม่มีวิตกมีแต่วิจาร ๑
สมาธิไม่มีวิตกไม่มีวิจาร ๑
ธรรม ๓ อย่างควรกำหนดรู้ คือ
สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา
ธรรม ๓ อย่างควรละ คือ
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
ธรรม ๓ อย่างเป็นไปในส่วนข้างเสื่อม คือ
อกุศลมูลคือ โลภะ ๑
อกุศลมูลคือ โทสะ ๑
อกุศลมูลคือ โมหะ ๑
ธรรม ๓ อย่างเป็นไปในส่วนข้างวิเศษ คือ
กุศลมูลคือ อโลภะ ๑
กุศลมูลคือ อโทสะ ๑
กุศลมูลคือ อโมหะ ๑
ธรรม ๓ อย่างแทงตลอดได้ยาก คือ
เนกขัมมะเป็นที่ถ่ายถอนกาม ๑
อรูปเป็นที่ถ่ายถอนรูป ๑
นิโรธเป็นที่ถ่ายถอนสิ่งที่เกิดแล้ว อันปัจจัยปรุงแต่งแล้ว อาศัยเหตุเกิดขึ้นแล้วอย่างใดอย่างหนึ่ง ๑
ธรรม ๓ อย่างควรให้บังเกิดขึ้น คือ
อตีตังสญาณ ๑
อนาคตังสญาณ ๑
ปัจจุปันนังสญาณ ๑
ธรรม ๓ อย่างควรรู้ยิ่ง คือ
กามธาตุ ๑
รูปธาตุ ๑
อรูปธาตุ ๑
ธรรม ๓ อย่างควรทำให้แจ้ง คือ
ระลึกถึงชาติหนหลังได้ ๑
รู้ในการจุติและอุปบัติของสัตว์ทั้งหลาย ๑
ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ๑