Main navigation

วิธีภาวนา - (ดูทั้งหมด)

ระบบการปฏิบัติธรรม I โมคคัลลานสูตร

พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
ระบบการปฏิบัติธรรม
โมคคัลลานสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๕๘

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

เสียง : 8:21 นาที
ปฏิบัติ : 20 นาที

----------------

พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกลามิคทายวัน ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ ท่านพระมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ แล้วทรงหายจากเภสกลามิคทายวัน เสด็จไปปรากฏเฉพาะหน้าท่านพระมหาโมคคัลลานะ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม

พระผู้มีพระภาคทรงให้อุบายแก้ง่วงแก่พระโมคลัลลานะตามลำดับ ดังนี้

-  เมื่อมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ พึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงทำในใจถึงเอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก
-  ถ้ายังละไม่ได้ พึงสำเร็จสีหไสยา คือ นอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น
-  พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ

แล้วตรัสว่า

ภิกษุจักไม่ชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล ถ้าภิกษุชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล และในตระกูลมีกิจหลายอย่าง ซึ่งจะเป็นเหตุให้มนุษย์ไม่ใส่ใจถึงภิกษุผู้มาแล้ว เพราะเหตุนั้น ภิกษุย่อมมีความคิดอย่างนี้ว่า ใครหนอยุยงให้เราแตกในสกุลนี้ ดูมนุษย์พวกนี้มีอาการอิดหนาระอาใจในเรา

เพราะไม่ได้อะไร จึงเป็นผู้เก้อเขิน เมื่อเก้อเขิน ย่อมคิดฟุ้งซ่าน เมื่อคิดฟุ้งซ่าน ย่อมไม่สำรวม เมื่อไม่สำรวม จิตย่อมห่างจากสมาธิ  

ภิกษุจักไม่พูดถ้อยคำซึ่งจะเป็นเหตุให้ทุ่มเถียงกัน เมื่อมีถ้อยคำซึ่งจะเป็นเหตุให้ทุ่มเถียงกัน ก็จำต้องหวังการพูดมาก

เมื่อมีการพูดมาก ย่อมคิดฟุ้งซ่าน เมื่อคิดฟุ้งซ่าน ย่อมไม่สำรวม เมื่อไม่สำรวม จิตย่อมห่างจากสมาธิ

พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญความคลุกคลีด้วยเสนาสนะอันเงียบเสียง ไม่อื้ออึง ปราศจากการสัญจรของหมู่ชน ควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการความสงัด ควรเป็นที่หลีกออกเร้น

พระสูตร
โมคคัลลานสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๕๘