สิ่งที่ไม่ควรเชื่อ-สิ่งที่ควรเชื่อ I เกสปุตตสูตร
พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ไม่ควรเชื่อ-สิ่งที่ควรเชื่อ
เกสปุตตสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๒๐ ข้อที่ ๕๐๕ หน้า ๑๗๙-๑๘๔
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
เสียง : 13:17 นาที
ปฏิบัติ : 30 นาที
----------------
พระพุทธเจ้าตรัสแก่ชาวกาลามโคตรว่า
๑. อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
๒. อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
๓. อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้
๔. อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
๕. อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
๖. อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
๗. อย่าได้ยึดถือโดยความตรึกตามอาการ
๘. อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว
๙. อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
๑๐. อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
จงรู้ด้วยตนเองว่าธรรมใดเป็นอกุศล ธรรมใดมีโทษ ธรรมใดผู้รู้ติเตียน ธรรมใดใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้วเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ เมื่อนั้น ควรละธรรมเหล่านั้นเสีย
ความโลภ ความโกรธ ความหลง เมื่อเกิดขึ้นในภายในบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์
บุคคลผู้โลภ ผู้โกรธ ผู้หลง ถูกความโกรธ ความโลภ ความหลง ครอบงำ มีจิตอันความโลภ ความโกรธ ความหลง กลุ้มรุมนี้ ย่อมฆ่าสัตว์ก็ได้ ลักทรัพย์ก็ได้ คบชู้ก็ได้ พูดเท็จก็ได้
สิ่งใดเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์ สิ้นกาลนาน บุคคลผู้โลภ ผู้โกรธ ผู้หลง ย่อมชักชวนผู้อื่น เพื่อความเป็นอย่างนั้นก็ได้
บุคคลผู้ไม่โลภ ผู้ไม่โกรธ ผู้ไม่หลง ไม่ถูกความโกรธ ความโลภ ความหลง ครอบงำ มีจิตไม่ถูกความโลภ ความโกรธ ความหลง กลุ้มรุมนี้ ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่คบชู้ ไม่พูดเท็จ
สิ่งใดเป็นไปเพื่อเป็นประโยชน์ เพื่อสุขสิ้นกาลนาน บุคคลผู้ไม่โลภ ผู้ไม่โกรธ ผู้ไม่หลง ย่อมชักชวนผู้อื่นเพื่อความเป็นอย่างนั้น