Main navigation

วิธีภาวนา - (ดูทั้งหมด)

พุทธวิธีละความกำหนัดในกาม

ธรรมปฏิบัติ
พุทธวิธีละความกำหนัดในกาม
(สัมมาทิฏฐิ)
กัปปเถรคาถา
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๒๖ ข้อ ๓๗๔

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

ความยาววีดีโอ: 5:36 นาที
เวลาปฏิบัติ: 15 นาที

-----

พระผู้มีพระภาคทรงตรัสอสุภกถาแก่พระราชาผู้ยินดีมักมากในกามว่า 

ร่างกายนี้เต็มไปด้วยของอากูลและของอันเป็นมลทินต่างๆ มีหลุมคูถใหญ่เป็นที่เกิด เป็นดุจบ่อน้ำครำอันมีมานมนาน เป็นดุจฝีใหญ่ เป็นดุจแผลใหญ่ เต็มไปด้วยหนองและเลือด เต็มไปด้วยหลุมคูถ มีน้ำไหลออกเป็นนิตย์ มีของเน่าไหลออกทุกเมื่อ 

กายอันเปื่อยเน่านี้รัดรึงด้วยเอ็นใหญ่ ๖๐ เส้น ฉาบทาด้วยเครื่องฉาบทา คือ เนื้อ หุ้มห่อด้วยเสื้อ คือ หนัง เป็นของหาประโยชน์มิได้ เป็นของสืบต่อเนื่องกันด้วยร่างกระดูก เกี่ยวร้อยด้วยด้าย คือ เส้นเอ็น เปลี่ยนอิริยาบถได้ เพราะยังมีเครื่องประกอบพร้อม 

นรชนผู้ยังคลุกคลีอยู่ในกามคุณ เป็นผู้ตระเตรียมไปสู่ความตายเป็นนิตย์ เป็นผู้ตั้งอยู่ในที่ใกล้มัจจุราช จักต้องทิ้งร่างกายไว้ในโลกนี้เอง 

กายนี้เองอวิชชาหุ้มห่อแล้ว ผูกรัดด้วยเครื่องผูก ๔ ประการ จมอยู่ในห้วงน้ำ คือ กิเลส ปกคลุมไว้ด้วยข่าย คือ กิเลสอันนอนเนื่องอยู่ในสันดาน ประกอบแล้วในนีวรณ์ ๕ เพียบพร้อมด้วยวิตก ประกอบด้วยรากเหง้าแห่งภพ คือ ตัณหา ปกปิดด้วยเครื่องปกปิด คือ โมหะ หมุนไปอยู่ด้วยเครื่องหมุน คือ กรรม 

ร่างกายนี้ย่อมมีสมบัติกับวิบัติเป็นคู่กัน มีความเป็นต่าง ๆ กันเป็นธรรมดา ปุถุชนคนอันธพาลเหล่าใด มายึดถือร่างกายนี้ว่าเป็นของเรา ย่อมยังสงสารอันน่ากลัวให้เจริญ ปุถุชนเหล่านั้นย่อมถือเอาภพใหม่อีก 

กุลบุตรผู้เป็นบัณฑิตเหล่าใด ละเว้นร่างกายอันฉาบทาแล้วด้วยคูถ ดังบุรุษผู้ประสงค์ความสุขอยากมีชีวิตอยู่ เห็นอสรพิษแล้วหลีกหนีไปฉะนั้น กุลบุตรเหล่านั้นละอวิชชาอันเป็นรากเหง้าแห่งภพแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะจักปรินิพพาน

 

 

พระสูตร
กัปปเถรคาถาสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๖ ข้อ ๓๗๔