อุบายแก้ง่วง | โมคคัลานสูตร 1 of 3
พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
อุบายแก้ง่วง
โมคคัลลานสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๕๘
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
ความยาววีดีโอ: 4:41 นาที
เวลาปฏิบัติ: 20 นาที
---------
พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ป่าเภสกลามิคทายวัน ใกล้สุงสุมารคีรนคร แคว้นภัคคะ ท่านพระมหาโมคคัลลานะนั่งโงกง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ แล้วทรงหายจากเภสกลามิคทายวัน เสด็จไปปรากฏเฉพาะหน้าท่านพระมหาโมคคัลลานะ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แล้วตรัสกับท่านพระมหาโมคคัลลานะว่า
พระผู้มีพระภาคทรงให้อุบายแก้ง่วงแก่พระโมคลัลลานะตามลำดับ ดังนี้
- เมื่อมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ พึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ตนได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงสาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงทำในใจถึงเอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันว่า กลางวันอย่างไร กลางคืนอย่างนั้น กลางคืนอย่างไร กลางวันอย่างนั้น มีใจเปิดเผยอยู่ฉะนี้ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตอันมีแสงสว่างให้เกิด
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ มีใจไม่คิดไปในภายนอก
- ถ้ายังละไม่ได้ พึงสำเร็จสีหไสยา คือ นอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น
- พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า เราจักไม่ประกอบความสุขในการนอน ความสุขในการเอนข้าง ความสุขในการเคลิ้มหลับ
-------------