พุทธวิธีละขันธ์ ๕ ใน ๓ กาล
พุทธวิธีละขันธ์ ๕ ใน ๓ กาล
(สัมมาทิฏฐิ - สัมมาสังกัปปะ)
อตีตานาคตปัจจุปันนสูตรที่ ๓
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๑๗ ข้อ ๓๘
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
ความยาววีดีโอ: 6:27 นาที
เวลาปฏิบัติ: 15 นาที
-----
ณ พระนครสาวัตถี พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า
รูปที่เป็นอดีต รูปที่เป็นอนาคต
เป็นอนัตตา
จักกล่าวถึงรูปที่เป็นปัจจุบันไปไย
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ย่อมเป็นผู้ไม่มีความอาลัยในรูปที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินในรูปที่เป็นอนาคต
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับรูปที่เป็นปัจจุบัน
เวทนาที่เป็นอดีต
เวทนาที่เป็นอนาคต
เป็นอนัตตา
จักกล่าวถึงเวทนาที่เป็นปัจจุบันไปไย
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นผู้ไม่มีความอาลัยในเวทนาที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินในเวทนาที่เป็นอนาคต
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับเวทนาที่เป็นปัจจุบัน
สัญญาที่เป็นอดีต
สัญญาที่เป็นอนาคต
เป็นอนัตตา
จักกล่าวถึงสัญญาที่เป็นปัจจุบันไปไย
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นผู้ไม่มีความอาลัยในสัญญาที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินในสัญญาที่เป็นอนาคต
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับสัญญาที่เป็นปัจจุบัน
สังขารที่เป็นอดีต
สังขารที่เป็นอนาคต
เป็นอนัตตา
จักกล่าวถึงสังขารที่เป็นปัจจุบันไปไย
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นผู้ไม่มีความอาลัยในสังขารที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินในสังขารที่เป็นอนาคต
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับสังขารที่เป็นปัจจุบัน
วิญญาณที่เป็นอดีต
วิญญาณที่เป็นอนาคต
เป็นอนัตตา
จักกล่าวถึงวิญญาณที่เป็นปัจจุบันไปไย
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเป็นผู้ไม่มีความอาลัยในวิญญาณที่เป็นอดีต ไม่เพลิดเพลินวิญญาณที่เป็นอนาคต
ย่อมเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายกำหนัด เพื่อ ความดับวิญญาณที่เป็นปัจจุบัน