Main navigation

วิธีภาวนา - (ดูทั้งหมด)

พุทธวิธีน้อมจิตเพื่ออาสวักขยญาณ (วิชชา ๓)

พุทธวิธีน้อมจิตเพื่ออาสวักขยญาณ

(สัมมาสมาธิ-สัมมาญาณะ)

มหาอัสสปุรสูตร

พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ ข้อ ๔๗๔, ๔๗๗

 

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ

ก่อนจะฟัง

พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง

เมื่อได้สมาธิดีแล้ว

ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ

น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ

ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง

เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

 

ความยาววีดีโอ: 5:45 นาที

เวลาปฏิบัติ: 15 นาที

-----

พระผู้มีพระภาคตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า

ภิกษุบรรลุจตตุถฌาน ไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุขและทุกข์ และดับโสมนัสในก่อนได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่

เธอนั่งแผ่ไปทั่วกายนี้ ด้วยใจอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีเอกเทศไหน ๆ แห่งกายของเธอทั่วทั้งตัว ที่จิตอันบริสุทธิ์ผ่องแผ้วจะไม่ถูกต้อง

เปรียบเหมือนบุรุษนั่งคลุมตัวตลอดศีรษะด้วยผ้าขาว ไม่มีเอกเทศไหน ๆ แห่งกายทุก ๆ ส่วนของเขาที่ผ้าขาวจะไม่ถูกต้อง ฉะนั้น

เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวอย่างนี้ ย่อมโน้มจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ

 

เธอย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า

นี้ทุกข์

นี้ทุกขสมุทัย

นี้ทุกขนิโรธ

นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา

 

เหล่านี้อาสวะ

นี้อาสวะสมุทัย

นี้อาสวะนิโรธ

นี้อาสวะนิโรธคามินีปฏิปทา

 

เมื่อเธอรู้เห็นอยู่อย่างนี้จิตย่อมหลุดพ้นแม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ

แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี

เปรียบเหมือนห้วงน้ำบนยอดภูเขา มีน้ำใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว บุรุษผู้มีจักษุยืนอยู่ที่ขอบห้วงน้ำนั้น พึงเห็นหอยกาบ หอยโข่ง ก้อนกรวด กระเบื้อง ฝูงปลา หยุดอยู่บ้าง เคลื่อนไปบ้าง

เขามีความดำริว่า ห้วงน้ำนี้ มีน้ำใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว มีหอยกาบ หอยโข่ง ก้อนกรวด กระเบื้อง และฝูงปลา หยุดอยู่บ้าง เคลื่อนไปบ้าง ฉันใด

 

ภิกษุย่อมรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า

นี้ทุกข์

นี้ทุกขสมุทัย

นี้ทุกขนิโรธ

นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา

 

เหล่านี้อาสวะ

นี้อาสวะสมุทัย

นี้อาสวะนิโรธ

นี้อาสวะนิโรธคามินีปฏิปทา

 

เมื่อเธอรู้เห็นอยู่อย่างนี้จิตย่อมหลุดพ้นแม้จากกามาสวะ

แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี ฉันนั้นเหมือนกันแล

----------

พระสูตร
มหาอัสสปุรสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๒ ข้อ ๔๗๔, ๔๗๗