วิปัสสนาธรรมอันเนื่องด้วยตัณหา | มหานิทานสูตร
พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
วิปัสสนาธรรมอันเกเนื่องด้วยตัณหา
มหานิทานสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๑๐ ข้อ ๕๙
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
ความยาววีดีโอ: 10:42 นาที
เวลาปฏิบัติ: 18 นาที
____________
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กุรุชนบท นิคมของชาวกุรุนามว่า กัมมาสทัมมะ พระผู้มีพระภาคตรัสถึงเหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัย แห่งอกุศลธรรมอันลามกกับพระอานนท์ว่า
ดูกรอานนท์ ก็ด้วยประการดังนี้แล คำนี้ คือ
เพราะอาศัยเวทนาจึงเกิดตัณหา
เพราะอาศัยตัณหาจึงเกิดการแสวงหา
เพราะอาศัยการแสวงหาจึงเกิดลาภ
เพราะอาศัยลาภจึงเกิดการตกลงใจ
เพราะอาศัยการตกลงใจจึงเกิดการรักใคร่พึงใจ
เพราะอาศัยการรักใคร่พึงใจจึงเกิดการพะวง
เพราะอาศัยการพะวงจึงเกิดความยึดถือ
เพราะอาศัยความยึดถือจึงเกิดความตระหนี่
เพราะอาศัยความตระหนี่จึงเกิดการป้องกัน
เพราะอาศัยการป้องกันจึงเกิดเรื่องในการป้องกันขึ้น
อกุศลธรรมอันชั่วช้าลามกมิใช่น้อย คือ การถือไม้ ถือมีด การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท การกล่าวว่า มึง มึง การพูดคำส่อเสียด และการพูดเท็จย่อมเกิดขึ้น คำนี้เรากล่าวไว้ด้วยประการฉะนี้แล
ดูกรอานนท์ เธอพึงทราบความข้อนี้ โดยปริยายแม้นี้ เรื่องในการป้องกัน อกุศลธรรมอันชั่วช้าลามกมิใช่น้อย คือ การถือไม้ ถือมีด การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท การกล่าวว่า มึง มึง การพูดคำส่อเสียด และการพูดเท็จ ย่อมเกิดขึ้น
ก็ถ้าการป้องกันมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีการป้องกันโดยประการทั้งปวง เพราะหมดการป้องกัน อกุศลธรรมอันชั่วช้าลามกมิใช่น้อยจะพึงเกิดขึ้นได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งการเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรมอันชั่วช้าลามก ก็คือการป้องกันนั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยความตระหนี่จึงเกิดการป้องกัน เรากล่าวอธิบาย
ดังต่อไปนี้
เพราะอาศัยความตระหนี่จึงเกิดการป้องกัน
ก็ถ้าความตระหนี่มิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีความตระหนี่โดยประการทั้งปวง เพราะหมดความตระหนี่ การป้องกันจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งการป้องกัน ก็คือความตระหนี่นั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยความยึดถือจึงเกิดความตระหนี่ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าความยึดถือมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีความยึดถือโดยประการทั้งปวง เพราะดับความยึดถือเสียได้ ความตระหนี่จะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งความตระหนี่ ก็คือความยึดถือนั้นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยการพะวงจึงเกิดความยึดถือ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าการพะวงมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีการพะวงโดยประการทั้งปวง เพราะดับการพะวงเสียได้ ความยึดถือจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งความยึดถือ ก็คือการพะวงนั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยความรักใคร่พึงใจจึงเกิดการพะวง เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าความรักใคร่พึงใจมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีความรักใคร่พึงใจโดยประการทั้งปวง เพราะดับความรักใคร่พึงใจเสียได้ การพะวงจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งการพะวงก็คือความรักใคร่พึงใจนั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยความตกลงใจจึงเกิดความรักใคร่พึงใจ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าความตกลงใจมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีความตกลงใจโดยประการทั้งปวง เพราะดับความตกลงใจเสียได้ ความรักใคร่พึงใจจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยความรักใคร่พึงใจ ก็คือความตกลงใจนั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยลาภจึงเกิดความตกลงใจ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าลาภมิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีลาภโดยประการทั้งปวง เพราะหมดลาภ ความตกลงใจจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยแห่งความตกลงใจ ก็คือลาภนั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยการแสวงหาจึงเกิดลาภ เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าการแสวงหามิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน เมื่อไม่มีการแสวงหาโดยประการทั้งปวง เพราะหมดการแสวงหา ลาภจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยของลาภ ก็คือการแสวงหานั่นเอง
ก็คำนี้ว่า เพราะอาศัยตัณหาจึงเกิดการแสวงหา เรากล่าวอธิบายดังต่อไปนี้
ก็ถ้าตัณหามิได้มีแก่ใคร ๆ ในภพไหน ๆ ทั่วไปทุกแห่งหน คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
เมื่อไม่มีตัณหาโดยประการทั้งปวง เพราะดับตัณหาเสียได้ การแสวงหาจะพึงปรากฏได้บ้างไหม
ไม่ได้เลย พระเจ้าข้า
เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ เหตุ นิทาน สมุทัย ปัจจัยของการแสวงหา ก็คือตัณหานั่นเอง
ดูกรอานนท์ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนาโดยส่วนสอง ด้วยประการดังนี้แล