Main navigation

วิธีภาวนา - (ดูทั้งหมด)

ความไม่เที่ยงแห่งสังขารทั้งหลาย | เวปุลลปัพพตสูตร

พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
ความไม่เที่ยงแห่งสังขารทั้งหลาย
เวปุลลปัพพตสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
 เล่มที่ ๑๖ ข้อที่ ๔๕๖-๔๖๑

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

ความยาววีดีโอ: 10:20 นาที
เวลาปฏิบัติ: 18 นาที

--------

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ภูเขาคิชฌกูฏ เขตพระนครราชคฤห์ ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว
เวปุลลบรรพตนี้ได้ชื่อว่า ปาจีนวังสะ
สมัยนั้น หมู่มนุษย์ได้ชื่อว่า ติวรา
มีอายุประมาณสี่หมื่นปี
ขึ้นปาจีนวังสบรรพตเป็นเวลา ๔ วัน ลงก็เป็นเวลา ๔ วัน

สมัยนั้นพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า กกุสันธะ เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระผู้มีพระภาคกกุสันธ มีพระสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าวิธูระ และสัญชีวะ

พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแล อันตรธานไปแล้ว มนุษย์เหล่านั้นกระทำกาละ (ตาย) ไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพานแล้ว

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว
ภูเขาเวปุลละนี้มีชื่อว่าวงกฏ
สมัยนั้น หมู่มนุษย์มีชื่อว่า โรหิตัสสะ
มีอายุประมาณสามหมื่นปี
ขึ้นวงกฏบรรพตเป็นเวลา ๓ วัน ลงก็เป็นเวลา ๓ วัน

สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่าโกนาคมนะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระผู้มีพระภาคโกนาคมนะมีพระสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าภิยโยสและอุตตระ

พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแล อันตรธานไปแล้ว มนุษย์เหล่านั้นกระทำกาละ (ตาย) ไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพานแล้ว

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว
เวปุลลบรรพตนี้มีชื่อว่าสุปัสสะ
สมัยนั้น หมู่มนุษย์มีชื่อว่าสุปปิยา
มีอายุประมาณสองหมื่นปี
ขึ้นสุปัสสบรรพต เป็นเวลา ๒ วัน ลงก็เป็นเวลา ๒ วัน

สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่ากัสสป เสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระผู้มีพระภาคกัสสปได้มีพระสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อว่าติสสและภารทวาชะ

พวกเธอจงดูเถิด ชื่อแห่งภูเขานี้นั้นแล อันตรธานไปแล้ว มนุษย์เหล่านั้นกระทำกาละ (ตาย) ไปแล้ว และพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นก็ปรินิพพานแล้ว

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บัดนี้แล
ภูเขาเวปุลละนี้มีชื่อเวปุลละทีเดียว
ก็บัดนี้หมู่มนุษย์เหล่านี้มีชื่อว่ามคธ
มีอายุน้อยเพียงร้อยปี น้อยกว่าก็มี เกินกว่าก็มี
ขึ้นเวปุลลบรรพตเพียงครู่เดียว ลงก็เพียงครู่เดียว

และบัดนี้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ เสด็จอุบัติขึ้นแล้วในโลก ก็เราแลมีสาวกคู่หนึ่ง เป็นคู่เลิศ เป็นคู่เจริญ ชื่อสารีบุตรและโมคคัลลานะ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยนั้นก็จักมี ชื่อแห่งบรรพตนี้จักอันตรธาน หมู่มนุษย์เหล่านี้จักทำกาละ และเราก็จักปรินิพพาน

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงอย่างนี้ ไม่ยั่งยืนอย่างนี้ ไม่น่าชื่นใจอย่างนี้ ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้

พระผู้มีพระภาค ผู้สุคตศาสดา ครั้นได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงตรัสพระคาถาประพันธ์ต่อไปว่า

ปาจีนวังสบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อติวระ
วงกฏบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อโรหิตัสสะ
สุปัสสบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อสุปปิยา
และเวปุลลบรรพตของหมู่มนุษย์ชื่อมคธ

สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
มีอันเกิดขึ้นแลเสื่อมไปเป็นธรรมดา
ครั้นเกิดขึ้นแล้ว ย่อมดับไป
ความที่สังขารเหล่านั้นสงบระงับไป เป็นสุข ดังนี้

พระสูตร
เวปุลลปัพพตสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๖ ข้อที่ ๔๕๖-๔๖๑