พุทธวิธีปฏิบัติธรรม

พุทธวิธีปฏิบัติธรรม
สมาธิเป็นเหตุเกิดปัญญา
สมาธิสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง
เล่มที่ ๑๗ ข้อที่ ๒๗-๒๙

ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง

ความยาววีดีโอ: 16:13 นาที
เวลาปฏิบัติ: 30:00 นาที

--------

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาค ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า

ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิ ภิกษุมีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริง

ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงอย่างไร คือ

ย่อมรู้ชัดซึ่งความเกิดและความดับแห่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ความเกิดแห่งขันธ์ ๕ คือ

เมื่อบุคคลเพลิดเพลิน พร่ำถึง ดื่มด่ำอยู่ใน รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ความยินดีก็ย่อมเกิดขึ้น

เมื่อความยินดีในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เกิดขึ้น นั่นเป็นอุปาทาน

เพราะอุปาทานของบุคคลนั้นเป็นปัจจัย จึงมีภพ

เพราะภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์โทมนัสและอุปายาส

ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวล มีด้วยประการอย่างนี้

นี่เป็นความเกิดแห่งรูป นี่เป็นความเกิดแห่งเวทนา นี่เป็นความเกิดแห่งสัญญา นี่เป็นความเกิดแห่งสังขาร นี่เป็นความเกิดแห่งวิญญาณ

ความดับแห่งขันธ์ ๕ คือ

เมื่อภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำถึง ไม่ดื่มด่ำอยู่ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ความยินดีในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ย่อมดับไป

เพราะความยินดีนั้นดับไป อุปาทานจึงดับ

เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ

เพราะภพดับ ชาติจึงดับ

เพราะชาติดับ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส จึงดับ

ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้

นี้เป็นความดับแห่งรูป นี้เป็นความดับแห่งเวทนา นี้เป็นความดับแห่งสัญญา นี้เป็นความดับแห่งสังขาร นี้เป็นความดับแห่งวิญญาณ