มหากรุณาญาณนิทเทส | แสดงญาณในมหากรุณาสมาบัติ
ปฏิบัติบูชาพระรัตนตรัย
สัปดาห์วิสาขบูชา ๒๕๖๕
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕
วันที่ ๖ ภาคเช้า
มหากรุณาญาณนิทเทส
แสดงญาณในมหากรุณาสมาบัติ
พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
เล่มที่ ๓๑ ข้อ ๑๑๗ - ๑๑๘
ข้อแนะนำในการปฏิบัติ
ก่อนจะฟัง
พึงเข้าสมาธิสักครู่หนึ่ง
เมื่อได้สมาธิดีแล้ว
ฟังพุทโธวาท และน้อมธรรมมาสู่ใจ
น้อมใจปฏิบัติตามพุทโธวาทตรง ๆ
ให้เข้าใจแจ้ง และได้สภาวะจิตดีจริง
เมื่อได้สภาวะดีใด ให้รักษาสภาวะนั้นออกมาสู่ชีวิตจริง
ความยาววีดิทัศน์ : 18:38 นาที
เวลาปฏิบัติ : 25 นาที
----------
ญาณในมหากรุณาสมาบัติของพระตถาคต เป็นอย่างไร คือ
พระผู้มีพระภาคทั้งหลายตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาเห็นด้วยอาการเป็นอันมาก จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์ คือ
พระผู้มีพระภาคทั้งหลายตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาเห็นว่า
"โลกสันนิวาสอันไฟลุกโชนแล้ว
โลกสันนิวาสยกพลแล้ว
โลกสันนิวาสเคลื่อนพลแล้ว
โลกสันนิวาสเดินทางผิดแล้ว
โลกถูกชรานำไปแล้ว ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีที่ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่
โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวงไป
โลกพร่อง ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา
โลกสันนิวาสไม่มีที่ต้านทาน
โลกสันนิวาสไม่มีที่เร้น
โลกสันนิวาสไม่มีที่พึ่ง
โลกสันนิวาสไม่เป็นที่พึ่งของใคร
โลกฟุ้งซ่าน ไม่สงบ
โลกสันนิวาสถูกลูกศรเป็นอันมากเสียบแทงแล้ว...
โลกสันนิวาสมีความมืดคืออวิชชาปิดกั้นไว้...
โลกสันนิวาสตกอยู่ในอำนาจของอวิชชา...
โลกสันนิวาสถูกยาพิษที่มีโทษคืออวิชชาฉาบทาหนาแน่นแล้ว...
โลกสันนิวาสรกชัฏด้วยราคะ โทสะ และโมหะ...
โลกสันนิวาสถูกกองตัณหาสุมไว้
โลกสันนิวาสถูกข่ายตัณหาครอบไว้
โลกสันนิวาสถูกกระแสตัณหาพัดไป
โลกสันนิวาสถูกตัณหาเครื่องข้องคล้องไว้
โลกสันนิวาสซ่านไปเพราะตัณหานุสัย
โลกสันนิวาสเดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนเพราะตัณหา
โลกสันนิวาสเร่าร้อนด้วยความเร่าร้อนเพราะตัณหา
โลกสันนิวาสถูกกองทิฏฐิสุมไว้
โลกสันนิวาสถูกข่ายคือทิฏฐิครอบไว้
โลกสันนิวาสถูกกระแสทิฏฐิพัดไป
โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิเป็นเครื่องข้องคล้องไว้
โลกสันนิวาสซ่านไปเพราะทิฏฐานุสัย
โลกสันนิวาสเดือดร้อนด้วยความเดือดร้อนเพราะทิฏฐิ
โลกสันนิวาสเร่าร้อนด้วยความเร่าร้อนเพราะทิฏฐิ
โลกสันนิวาสถูกชาติติดตาม
โลกสันนิวาสถูกชราตามติด
โลกสันนิวาสถูกพยาธิครอบงำ
โลกสันนิวาสถูกมรณะห้ำหั่น
โลกสันนิวาสตกอยู่ในกองทุกข์
โลกสันนิวาสถูกตัณหาดักไว้
โลกสันนิวาสถูกกำแพงคือชราล้อมไว้
โลกสันนิวาสถูกบ่วงมัจจุคล้องไว้
โลกสันนิวาสถูกผูกไว้ด้วยเครื่องผูกเป็นอันมาก...
โลกสันนิวาสไปในทางที่แคบมาก...
โลกสันนิวาสถูกความกังวลเป็นอันมากพัวพันไว้...
โลกสันนิวาสตกลงไปในเหวใหญ่...
โลกสันนิวาสเดินทางกันดารมาก...
โลกสันนิวาสเดินไปในสังสารวัฏใหญ่...
โลกสันนิวาสกลิ้งเกลือกอยู่ในหล่มใหญ่...
โลกสันนิวาสติดอยู่ในเปือกตมอันกว้างใหญ่...
โลกสันนิวาสถูกไฟคือราคะ...
โลกสันนิวาสทุรนทุราย...
โลกสันนิวาสถูกผูกด้วยเครื่องผูกในวัฏฏะ ปรากฏอยู่ในตะแลงแกง...
โลกสันนิวาสไม่มีที่พึ่ง ควรได้รับความกรุณาอย่างยิ่ง...
โลกสันนิวาสถูกทุกข์เสียบแทงบีบคั้นมานาน
โลกสันนิวาสติดใจกระหายเป็นนิตย์
โลกสันนิวาสเป็นโลกบอด ไม่มีจักษุ
โลกสันนิวาสมีจักษุเสื่อมไปไม่มีผู้นำ
โลกสันนิวาสแล่นไปสู่ทางผิด หลงทางแล้ว...
โลกสันนิวาสแล่นไปสู่ห้วงโมหะ...
โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิ ๒ อย่างกลุ้มรุม
โลกสันนิวาสปฏิบัติผิดด้วยทุจริต ๓
โลกสันนิวาสเต็มไปด้วยกิเลสเครื่องประกอบ ๔ อย่าง...
โลกสันนิวาสถูกกิเลสเครื่องร้อยรัด ๔ อย่างร้อยไว้
โลกสันนิวาสถือมั่นด้วยอุปาทาน ๔
โลกสันนิวาสขึ้นสู่คติ ๕
โลกสันนิวาสกำหนัดอยู่ด้วยกามคุณ ๕
โลกสันนิวาสถูกนิวรณ์ ๕ ทับไว้...
...โลกสันนิวาสประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ ๑๐
โลกสันนิวาสถูกสังโยชน์ ๑๐ คล้องไว้
โลกสันนิวาสดิ่งลงเพราะมิจฉัตตะ ๑๐
โลกสันนิวาสเพียบพร้อมด้วยมิจฉาทิฏฐิ ๑๐
โลกสันนิวาสเพียบพร้อมด้วยสักกายทิฏฐิอันมีวัตถุ ๑๐
โลกสันนิวาสเนิ่นช้าเพราะตัณหา ๑๐๘ ทำให้เนิ่นช้า
โลกสันนิวาสถูกทิฏฐิ ๖๒ กลุ้มรุม"
"เราเป็นผู้ข้ามได้แล้ว แต่สัตว์โลกยังข้ามไม่ได้
เราเป็นผู้พ้นแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่พ้น
เราเป็นผู้ฝึกแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่ได้ฝึก
เราเป็นผู้สงบแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่สงบ
เราเป็นผู้เบาใจแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่เบาใจ
เราเป็นผู้ดับรอบแล้ว แต่สัตว์โลกยังไม่ดับรอบ
เราเป็นผู้ข้ามได้แล้ว จะให้สัตว์โลกข้ามได้ด้วย
เราเป็นผู้พ้นแล้ว จะให้สัตว์โลกพ้นได้ด้วย
เราฝึกได้แล้ว จะฝึกสัตว์โลกได้ด้วย
เราเป็นผู้สงบแล้วจะให้สัตว์โลกสงบได้ด้วย
เราเป็นผู้เบาใจแล้วจะให้สัตว์โลกเบาใจได้ด้วย
เราเป็นผู้ดับสนิทแล้วจะให้สัตว์โลกดับสนิทได้ด้วย"
จึงทรงแผ่พระมหากรุณาไปในหมู่สัตว์
นี้เป็นญาณในมหากรุณาสมาบัติของพระตถาคต