ฉันนสูตร - โทษในราคะ
ก็ท่านทั้งหลายเห็นโทษในราคะอย่างไร จึงบัญญัติการละราคะ
บุคคลผู้กำหนัด ถูกความกำหนัดครอบงำ รัดรึงจิตไว้
ย่อมคิดเพื่อจะเบียดเบียนตนเองบ้าง คิดเพื่อจะเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง
คิดเพื่อจะเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่ายบ้าง
เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิตบ้าง
ย่อมประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
ย่อมไม่รู้แม้ซึ่งประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น
ประโยชน์ตนและผู้อื่นทั้งสองฝ่ายตามความเป็นจริง
เพื่อละราคะได้แล้ว ย่อมไม่คิดเพื่อจะเบียดเบียนตนเอง
ไม่คิดเพื่อจะเบียดเบียนผู้อื่น
ไม่คิดเพื่อจะเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นทั้งสองฝ่าย
ไม่เสวยทุกข์โทมนัสที่เป็นไปทางจิต
เพื่อละราคะได้แล้ว ย่อมไม่ประพฤติทุจริตด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
เมื่อละราคะได้แล้ว ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ตนตามความเป็นจริง
ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ผู้อื่นตามความเป็นจริง
ย่อมรู้แม้ซึ่งประโยชน์ตนและผู้อื่นตามความเป็นจริง
ความกำหนัดแล ทำให้เป็นคนมืด ทำให้เป็นคนไร้จักษุ
ทำให้ไม่รู้อะไร ทำปัญญาให้ดับ
เป็นไปในฝ่ายความคับแค้น ไม่เป็นไป เพื่อนิพพาน
พระอานนท์แสดงธรรมแก่ฉันนปริพาชก
อ่าน-ฟังพระสูตรเต็ม