
พระเตลุกานิเถระ
ก็บุคคลผู้นั้นเป็นใหญ่ในธรรม เป็นผู้ประเสริฐ
ลอยโทษอันเป็นพิษเสียได้
ช่วยยกเราผู้ตกไปในห้วงน้ำ คือ สงสารอันลึกขึ้นสู่บกได้
เราเป็นผู้จมอยู่ในห้วงน้ำใหญ่ อันเป็นที่สุดแห่งธุลี
เป็นห้วงน้ำลาดไปด้วยมายา ริษยา ความแข่งดี
และความง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีใครจะนำออกได้
ความดำริทั้งหลายอันอาศัยซึ่งราคะ เป็นเช่นกับห้วงน้ำใหญ่
มีเมฆ คือ อุทธัจจะเป็น เสียงคำรน มีสังโยชน์เป็นฝน
ย่อมนำบุคคลผู้มีความเห็นผิดไปสู่สมุทร คือ อบาย
ลอยโทษอันเป็นพิษเสียได้
ช่วยยกเราผู้ตกไปในห้วงน้ำ คือ สงสารอันลึกขึ้นสู่บกได้
เราเป็นผู้จมอยู่ในห้วงน้ำใหญ่ อันเป็นที่สุดแห่งธุลี
เป็นห้วงน้ำลาดไปด้วยมายา ริษยา ความแข่งดี
และความง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีใครจะนำออกได้
ความดำริทั้งหลายอันอาศัยซึ่งราคะ เป็นเช่นกับห้วงน้ำใหญ่
มีเมฆ คือ อุทธัจจะเป็น เสียงคำรน มีสังโยชน์เป็นฝน
ย่อมนำบุคคลผู้มีความเห็นผิดไปสู่สมุทร คือ อบาย
พระสูตร:
เตลุกานิเถรเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๖/๓๘๗/๓๒๒-๓๒๘