พระสารีปุตตเถระ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสรู้แล้ว มีพระจักษุ
ทรงแสดงธรรมแก่ผู้อื่นอยู่
เมื่อพระองค์กำลังทรงแสดงธรรมอยู่
เราผู้มุ่งประโยชน์ตั้งใจฟัง
การตั้งใจฟังของเรานั้น ไม่ไร้ประโยชน์
เราเป็นผู้หมดอาสวะ เป็นผู้หลุดพ้นพิเศษ
เราไม่ได้ตั้งความปรารถนาเพื่อปุพเพนิวาสญาณ
ทิพจักขุญาณ เจโตปริยญาณ อิทธิวิธี จุตูปปาตญาณ
ทิพโสตญาณอันเป็นธาตุบริสุทธิ์ มาแต่ปางก่อนเลย
แต่คุณธรรมของสาวกทั้งหมดได้มีขึ้นแก่เรา
พร้อมกับการบรรลุมรรคผล
เหมือนคุณธรรม คือ
พระสัพพัญญุตญาณได้มีแก่พระพุทธเจ้า ฉะนั้น
ทรงแสดงธรรมแก่ผู้อื่นอยู่
เมื่อพระองค์กำลังทรงแสดงธรรมอยู่
เราผู้มุ่งประโยชน์ตั้งใจฟัง
การตั้งใจฟังของเรานั้น ไม่ไร้ประโยชน์
เราเป็นผู้หมดอาสวะ เป็นผู้หลุดพ้นพิเศษ
เราไม่ได้ตั้งความปรารถนาเพื่อปุพเพนิวาสญาณ
ทิพจักขุญาณ เจโตปริยญาณ อิทธิวิธี จุตูปปาตญาณ
ทิพโสตญาณอันเป็นธาตุบริสุทธิ์ มาแต่ปางก่อนเลย
แต่คุณธรรมของสาวกทั้งหมดได้มีขึ้นแก่เรา
พร้อมกับการบรรลุมรรคผล
เหมือนคุณธรรม คือ
พระสัพพัญญุตญาณได้มีแก่พระพุทธเจ้า ฉะนั้น
พระสูตร:
สารีปุตตเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๖/๓๙๖/๓๔๖-๓๔๙