เป็นพระดำรัสพระผู้มีพระภาค และคอนเฟิร์มตามนั้น สวรรค์จะโล่ง โปร่ง อิสระ เย็นสบายมากเมื่อเทียบโลกมนุษย์กับสวรรค์ โลกมนุษย์ก็เหมือนกองขยะนั่นเอง บางครั้งพระพุทธองค์ก็ทรงเปรียบว่าโลกเหมือนกองคูถ (ขี้) ทำไมจึงเปรียบแรงอย่างนั้น

ลองดูภาพรวม

โลก เสมือนขยะ เมื่อเทียบกับสวรรค์
สวรรค์ เสมือนขยะ เมื่อเทียบกับพรหม
พรหม เสมือนขยะ เมื่อเทียบกับนิพพาน

ดังนั้น ท่านที่สำเร็จอรหันต์แล้ว จึงเห็นขยะหลาย ๆ ชั้น ชั้นล่างสุดก็เสมือนขี้
 
ลองดูภาพย่อย
                 
สิ่งต่าง ๆ ในโลกถูกสร้างมาด้วยขี้
เพราะขี้กลัว จึงสร้างพวก สร้างชาติกันขึ้นมา
เพราะขี้งก จึงสร้างระบบเศรษฐกิจ ธุรกิจกันขึ้นมา
เพราะขี้โมโห จึงสร้างกองกำลังกันขึ้นมา 
เพราะขี้เหนียวยึด จึงสร้างระบบวัฒนธรรมกันขึ้นมา
เพราะขี้หลี จึงสร้างระบบครอบครัวกันขึ้นมา 

โลกนี้สร้างมาด้วยขี้ จึงถูกต้องแล้วที่ทรงตรัสว่า โลกเสมือนกองขี้ มนุษย์น่าสงสารเอง ขลุกอยู่ในกองขี้ หลงขี้ แย่งขี้ อวดขี้ เอาขี้ข่มเหงกัน ปาใส่กัน น่าสงสาร
 
พระพุทธธรรมจึงนำออกจากโลกโดยลำดับ คือยกระดับจากความเป็นมนุษย์ไปเป็นเทวดา ยกระดับจากเทวดาไปเป็นพรหม ยกระดับจากพรหมเป็นพระอรหันต์

ยกได้อย่างไร

ยกที่จิต มีบุญเป็นฐานยกจิต มีธรรมเป็นเครื่องดึงจิตขึ้น ทั้งดึง ทั้งดันได้ที่ ก็จะสูงส่งขึ้นโดยลำดับความประณีต จนไม่ห่วงขี้ ไม่เสียดายขี้ ปล่อยวางขี้ได้ขาด ก็บริสุทธิ์หลุดพ้น ไม่ต้องดมขี้ ขยี้ขยะอีกต่อไป