คัททูลสูตรที่ ๒ - อุปมาขันธ์ ๕
สุนัขที่เขาผูกไว้ด้วยเชือก ถูกล่ามไว้ที่หลักหรือเสาอันมั่นคง
ถ้าแม้มันเดิน มันก็ย่อมเดินใกล้หลักหรือเสานั้นเอง
ถ้าแม้มันยืน มันก็ย่อมยืนใกล้หลักหรือเสานั้นเอง
ถ้าแม้มันนั่ง มันก็ย่อมนั่งใกล้หลักหรือเสานั้นเอง
ถ้าแม้มันนอน มันก็ย่อมนอนใกล้หลักหรือเสานั้นเอง แม้ฉันใด
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ฉันนั้นเหมือนกันแล
ย่อมตามเห็นรูป ตามเห็นเวทนา ตามเห็นสัญญา
ตามเห็นสังขาร ตามเห็นวิญญาณว่า
นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา
ปุถุชนนั้น ถ้าแม้เดิน เขาก็ย่อมเดินใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง
ถ้าแม้ยืน เขาก็ย่อมยืนใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง
ถ้าแม้นั่ง เขาก็ย่อมนั่งใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง
ถ้าแม้นอน เขาย่อมนอนใกล้อุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้นั้นเอง
เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลาย พึงพิจารณาจิตของตนเนืองๆ ว่า
จิตนี้เศร้าหมองแล้วด้วยราคะ โทสะ โมหะ สิ้นกาลนาน
...สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเศร้าหมองเพราะจิตเศร้าหมอง
สัตว์ทั้งหลายย่อมบริสุทธิ์ เพราะจิตผ่องแผ้ว
รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณไม่เที่ยง
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอย่างนี้
ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ
เมื่อเบื่อยหน่าย ย่อมคลายกำหนัด
เพราะคลายกำหนัด ย่อมหลุดพ้น
ครั้นหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว
รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี
อ่าน-ฟังพระสูตรเต็ม