Main navigation

มาร

Q ถาม :

แฟนปฏิบัติธรรมและก็มีความเชื่อตามสำนัก ๆ หนึ่ง มีเป้าหมายในการปฏิบัติไม่ใช่การหลุดพ้น แต่ต้องการจะปราบมาร คือเขาเชื่อว่ามารตัวหัวหน้า พอปราบแล้วทุกคนก็จะหลุดพ้นตาม ควรจะทำอย่างไรคะ และแฟนเป็นมิจฉาทิฏฐิหรือเปล่าคะ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

ก่อนอื่นต้องเข้าใจมารก่อน มารแปลว่าผู้ขวางความสุข

แล้วอะไรหล่ะที่ขวางความสุข พระพุทธองค์ทรงจำแนกว่ามี ๕ ประการ 

๑. ขันธมาร มารพื้นฐานที่สุดก็คือ ขันธมาร ขันธ์ของเราเองนี่แหละ เราไม่อยากคิดมันก็คิด เราไม่อยากโกรธมันก็โกรธนี่ขันธ์ ไม่อยากเครียดมันก็เครียด ไม่อยากแก่ก็แก่ ไม่อยากป่วยก็ป่วย ไม่อยากลืมก็ลืม อยากลืมก็ดันจำ นี่ขันธ์เป็นมาร ขันธ์ของแต่ละคนนี่แหละเป็นมารของตัวเอง

๒. กิเลสมาร อวิชชา ทิฏฐิ ความฟุ้งซ่าน ความอวดดี ความลบลู่คุณคน โลภะ โทสะ โมหะ ตระกูลกิเลสทั้งหมด คือมารของทุกคน เพราะเป็นตัวสร้างทุกข์ที่มนุษย์ไม่ต้องการ

๓. มัจจุมาร คือความตาย คนส่วนใหญ่ไม่อยากตายกัน แต่ต้องตาย นั่นมัจจุมารขวางความสุขในการเป็นอยู่

๔. อภิสังขารมาร มารคือ ปุญญาภิสังขาร (บุญใหญ่) อปุญญาภิสังขาร (บาปใหญ่) อเนญชาภิสังขาร (จิตใหญ่) อ้าวสิ่งเหล่านี้เป็นมารได้อย่างไร เป็นมารเพราะทำให้ต้องไปเป็นต่าง ๆ ตามวิบาก คือทำให้วนเวียนอยู่ในภพต่าง ๆ เดี๋ยวเสวยผลบุญ เดี๋ยวเสวยผลบาป เดี๋ยวจิตดี เดี๋ยวจิตแย่ วันแล้ววันเล่า ชาติแล้วชาติเล่า เรียกรวม ๆ ว่าอยู่ในวงกตวัฏฏะสงสาร ทำให้ไม่ถึงนิพพานบรมสุขสักที จึงเป็นมาร

๕. เทวปุตตมาร ก็คือพญามาร พญามารเกิดจากอะไร จริง ๆ แล้วพญามารเกิดจากการบ้าบุญ ภูมิที่เป็นมารกันคือสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี สวรรค์ชั้นสูงสุดชั้นที่หก และคนที่เกิดในสวรรค์ชั้นนั้นได้ จะต้องเป็นคนที่ทำบุญมหาศาล เป็นพวกบ้าบุญ ด้วยผลกรรมนั้น ทำให้ต้องไปเกิดในที่ ๆ สบาย ปรารถนาสิ่งใดจะมีคนเนรมิตให้ตลอด ตัวเองไม่ต้องเนรมิตเอง ด้วยความที่มีคนอื่นทำให้ตลอด ตามใจตลอดก็เลยทำให้เป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง พอเอาแต่ใจตัวเอง ปรารถนาสิ่งใดใครไม่ทำให้หรือทำให้ช้าหน่อยก็โกรธกริ้ว ไม่พอใจ นั่นประการที่หนึ่งที่ทำให้เป็นมารต่อคนที่ไม่บริการตน

ประการที่สอง เพราะการที่ปรารถนาสิ่งใดมีคนบริการตลอด เลยเข้าใจผิดคิดว่า ฉันนี่แหละดีที่สุดในความมีอยู่เป็นอยู่ทั้งหมด ดังนั้นพอมีใครอยากจะบรรลุธรรมออกจากโลก ออกจากสวรรค์ ออกจากพรหม ก็จะทึกทักว่าผู้นั้นหลงผิดจะมาบรรลุธรรมอะไรกัน อยู่กับฉันน่ะดีที่สุด มาบริการฉันน่ะดีที่สุด เพราะเข้าใจผิด เวลาพระโพธิสัตว์บำเพ็ญเพียร มารก็เลยมาขวาง ขวางเฉพาะคนที่พยายามจะออกจากอำนาจของตัวเอง เพราะเข้าใจว่าฉันมีอำนาจ ใครก็ต้องบริการฉัน ก็เลยมาขวางการบำเพ็ญเพียร กลายเป็นมารสำหรับคนที่อยากจะออกจากวัฏฏะ

แล้วมารขวางทุกคนหรือเปล่า

เค้าไม่ได้มีเวลาและใส่ใจมากขนาดนั้น เค้าไม่สามารถไปขวางทุกคนได้ เค้าจะขวางเฉพาะคนที่ไม่ตามใจเค้า หรือคนที่จะออกจากอำนาจของเค้าเท่านั้นเอง ซึ่งปกติก็จะขวางเฉพาะผู้นำใหญ่ ๆ จึงเป็นพญามาร

แล้วควรจะไปทำอะไรกับมารมั้ย

วิธีการที่เอาชนะมารง่าย ๆ นะ ไม่สนใจ ไม่รับอิทธิพล รู้ทันและปฏิเสธ เช่น มารมาแกล้งพระพุทธเจ้าหลายครั้ง พระพุทธเจ้าก็ไม่สนใจ แต่พอมารจะทำร้ายพระองค์ พระองค์ก็บอก เรารู้นะมาร ท่านมีประสงค์อย่างนี้ ๆ เราไม่อยู่ใต้อำนาจของท่านอีกต่อไปแล้ว คือจิตเป็นอิสระจากมาร มารก็ทำอะไรไม่ได้ ในที่สุดมารก็เสียใจเองแล้วก็ถอยกลับไปเองหลายต่อหลายครั้ง ดังนั้น การเอาชนะมารไม่ใช่การไปต่อกรกับมาร ไปรบกับมาร เพราะมารนี่ปรารถนาสิ่งใดต้องได้สิ่งนั้นด้วยผลบุญ ดังนั้น ถ้าเราไปรบกับเค้าเนี่ยโอกาสแพ้หรือโอกาสชนะสูงกว่ากัน บริวารเค้าเยอะแยะ โอกาสแพ้สูงกว่า อย่าไปรบกับมาร แค่เป็นอิสระจากมาร พอเป็นอิสระจากมาร มารก็จะช็อคอยู่พักหนึ่ง ทุกคนบริการฉันหมด แล้วแกจะมาเป็นอิสระจากฉันได้อย่างไร แต่ในที่สุดเค้าก็ทำอะไรเราไม่ได้ ก็ต้องปล่อยเป็นอิสระจากอำนาจตน และค่อย ๆ ยอมรับความจริงว่า ผลบุญใหญ่ทำให้เขาได้บริวาร แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นบริวารเขา เช่น คนที่บริสุทธิ์กว่า คนที่มีบารมีเหนือกว่า เป็นต้น ผลบุญใหญ่ทำให้เขาได้สารพัดสิ่ง แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง แม้เขาจะมีอำนาจมากแค่ไหน แต่มีบางท่านที่จิตอิสระสูงกว่าอำนาจของเขา เมื่อยอมรับความจริง มารก็เกิดปัญญา อยากหลุดพ้นเองบ้าง เมื่อนั้นมารก็จะเป็นคนดี บำเพ็ญเพียรให้เหนือบุญเหนือบาปเช่นกัน พระพุทธองค์จึงทรงพยากรณ์ว่าพญามารองค์ปัจจุบัน ในอนาคตอีกนานไกล จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า 

แล้วหากมารท่านใด ไม่ยอมรับความจริง จะไปบังคับข่มเหงให้ท่านเหล่านั้นอยู่ใต้อำนาจตนหล่ะ มารนั้นก็ต้องลงนรก เช่น สมัยหนึ่งในอดีตชาติพระโมคคัลลานะก็เคยเป็นมาร แล้วเห็นท่านพระอภิภู อัครสาวกฝ่ายฤทธิ์ของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เกิดไม่พอใจ แกจะมีอำนาจมากกว่าฉันได้ไง มาเข้าสิงเด็ก เอาก้อนหินขว้างไปที่ท่านพระอภิภูจนศรีษะแตก ด้วยกรรมนั้น ทำให้ตกจากสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัสตี ไปเกิดในนรกทันที ดังนั้น ทุกจิตใจในจักรวาลไม่ว่าจะมีอำนาจมากแค่ไหน ก็อยู่ใต้กฎแห่งกรรมเดียวกันทั้งหมด ไม่มียกเว้น

ดังนั้น อย่าไปเสียเวลากับเทวปุตตมาร เขาเป็นแค่ visitor นาน ๆ มาที หรืออาจไม่มาเลย และเขาจะทำงานได้เมื่อเรายังมีกิเลสอยู่เท่านั้น ความคิดที่ว่าจะไปปราบพญามารเพื่อให้ทุกคนอยู่เป็นสุข เป็นความบ้าส่วนบุคคล เพราะไม่เข้าใจมาร ถ้าเก่งจริง ตั้งใจปราบกิเลสมารในตัวเองดีกว่าการไปต่อกรกับพญามาร และเป็นอิสระจากขันธมารทั้งหลายให้ได้ นั่นดีที่สุด

 

 

คำที่เกี่ยวข้อง :

มาร ความสุข กิเลส