โสมนัสสจริยา
เมื่อทรงเป็นพระราชบุตรนามว่าโสมนัส เป็นที่รัก ที่ปรารถนาของพระมารดาพระบิดา อยู่ในอินทปัตถนคร เป็นผู้มีศีล สมบูรณ์ด้วยคุณธรรม มีปฏิภาณเฉียบแหลม เคารพนบนอบต่อผู้เจริญ มีหิริ และฉลาดในสังคหธรรม
ครั้งนั้น มีดาบสโกงผู้หนึ่งเป็นที่โปรดปรานของพระราชา ดาบสนั้นปลูกต้นผลไม้ ดอกไม้และผัก เก็บขายเลี้ยงชีวิต ดาบสโกงผู้นี้ไม่มีธรรมของสัตบุรุษ ปราศจากความเป็นสมณะ ละหิริและธรรมขาว
เพราะเหตุแห่งการเลี้ยงชีวิตและโจรในปัจจันตชนบทกำเริบขึ้น พระราชบิดาเมื่อจะเสด็จไปปราบความกำเริบ ตรัสสั่งว่า อย่าประมาทในชฎิลผู้มีความเพียรอันแรงกล้า ท่านจะอนุวัตรตามความปรารถนา ด้วยว่าชฎิลนั้นเป็นผู้ให้ความสำเร็จความปรารถนาทั้งปวง
พระโพธิสัตว์ทรงไปสู่ที่บำรุงชฎิลนั้นแล้วกล่าวว่า ท่านสบายดีดอกหรือ หรือว่าจะให้นำเอาอะไรมา ดาบสโกงนั้นอาศัยมานะจึงโกรธ จะให้พระราชาฆ่าพระโพธิสัตว์เสียในวันนี้ หรือจะให้ขับไล่เสียจากแว่นแคว้น
พระราชาทรงปราบปัจจันตชนบทสงบแล้ว ได้ตรัสถามชฎิลโกงว่า สบายดีหรือ สักการะสัมมานะยังเป็นไปแก่พระผู้เป็นเจ้าหรือ
ชฎิลโกงนั้นกราบทูลแด่พระราชาเหมือนว่าพระราชกุมารให้ฉิบหาย
พระเจ้าแผ่นดินสดับดังนั้น ทรงบังคับตัดศีรษะพระโพธิสัตว์เสีย สับฟันบั่นออกเป็น ๔ ท่อน ทิ้งไว้ในท่ามกลางถนนให้คนเห็นว่า นั่นเป็นผลของคนเบียดเบียนชฎิล พวกโจรฆาตก็ใจดุร้ายไม่มีกรุณาเพราะรับสั่งบังคับ ก็ฉุดคร่านำพระโพธิสัตว์ไป
พระโพธิสัตว์ได้กล่าวแก่ผู้กำลังผูกมัดว่า ให้พาท่านไปเฝ้าพระราชา ราชกิจของท่านมีอยู่
เมื่อได้เฝ้าพระราชาแล้ว พระโพธิสัตว์ทูลให้ทรงเข้าพระทัย พระบิดาขอขมาพระโพธิสัตว์ ณ ที่นั้นแล้ว ได้พระราชทานราชสมบัติอันใหญ่หลวงแก่ท่าน
เมื่อพระโพธิสัตว์ทำลายความมืดมัวเมาแล้ว ออกบวชเป็นบรรพชิต
ท่านจะเกลียดราชสมบัติอันใหญ่หลวงก็หามิได้ จะเกลียดกามโภคสมบัติก็หามิได้ แต่พระสัพพัญญุตญาณเป็นที่รัก จึงสละราชสมบัติเสีย
อ่าน โสมนัสสจริยา