Main navigation

อนิยตสิกขาบทที่ ๒

ว่าด้วย
การนั่งในที่ลับหูกับหญิงสองต่อสอง
เหตุการณ์
นางวิสาขามาเห็นพระอุทายีนั่งในที่ลับ ไม่กำบังเลยทีเดีย ไม่เป็นที่พอจะทำการได้ กับหญิงผู้หนึ่ง จึงว่ากล่าวพระอุทายี นางวิสาขาได้แจ้งเรื่องนี้แก่ภิกษุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคทรงประชุมสงฆ์และบัญญติสิกขาบท

สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี

ครั้งนั้น ท่านพระอุทายีดำริว่า พระผู้มีพระภาคทรงห้ามการสำเร็จนั่งในที่ลับ คือในอาสนะกำบัง พอจะทำการได้กับมาตุคาม หนึ่งต่อหนึ่ง ท่านจึงนั่งในที่ลับกับสาวน้อยคนนั้น หนึ่งต่อหนึ่ง เจรจากล่าวธรรมควรแก่เวลา

แม้ครั้งที่สอง นางวิสาขา มิคารมาตา ได้ถูกเชิญไปสู่สกุลนั้น และได้เห็นท่านพระอุทายีนั่งในที่ลับกับสาวน้อย หนึ่งต่อหนึ่ง จึงได้กล่าวว่าไม่เหมาะ ไม่ควร แม้พระคุณเจ้าไม่ต้องการด้วยธรรมนั้นก็จริง พวกชาวบ้านผู้ไม่เลื่อมใสจะบอกให้เชื่อโดยยาก

แม้ถูกนางวิสาขามิคารมาตาว่ากล่าวอยู่อย่างนี้ พระอุทายีมิได้เชื่อฟัง เมื่อนางวิสาขากลับไปแล้ว ได้แจ้งเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย

ภิกษุผู้มักน้อย สันโดษ มีความละอาย มีความรังเกียจ ผู้ใคร่ต่อสิกขาต่างพากันเพ่งโทษ ติเตียน และได้กราบทูลเรื่องนี้แก่พระผู้มีพระภาค

ด้วยเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ทรงรับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์ ทรงสอบถาม แล้วทรงติเตียนว่า การกระทำนั้นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ไม่ควรทำ เหตุไฉนจึงได้สำเร็จการนั่งในที่ลับซึ่งพอจะทำการได้กับมาตุคามหนึ่งต่อหนึ่ง การกระทำนั้นไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว โดยที่แท้การกระทำของเธอนั้น เป็นไปเพื่อความไม่เลื่อมใส ของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส และเพื่อความเป็นอย่างอื่นของชนบางพวกที่เลื่อมใสแล้ว

แล้วตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ ความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียรโดยอเนกปริยาย แล้วทรงกระทำธรรมีกถาที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะสมแก่เรื่องนั้น

เพราะเหตุนั้น ทรงบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลายอาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ คือ

เพื่อความรับว่าดีแห่งสงฆ์ ๑
เพื่อความสำราญแห่งสงฆ์ ๑
เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก ๑
เพื่ออยู่สำราญแห่งภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก ๑
เพื่อป้องกันอาสวะอันจะบังเกิดในปัจจุบัน ๑
เพื่อกำจัดอาสวะอันจักบังเกิดในอนาคต ๑ เพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ๑ เพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ๑ เพื่อความตั้งมั่นแห่งพระสัทธรรม ๑ เพื่อถือตามพระวินัย ๑

แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทว่า

อนึ่ง สถานหาเป็นอาสนะกำบังไม่เลยทีเดียว หาเป็นที่พอจะทำการได้ไม่ แต่เป็นที่พอจะพูดเคาะมาตุคามด้วยวาจาชั่วหยาบได้อยู่ ภิกษุใดรูปเดียวสำเร็จการนั่งในที่ลับกับด้วยมาตุคามผู้เดียวในอาสนะมีรูปอย่างนั้น อุบาสิกามีวาจาที่เชื่อได้ เห็นภิกษุกับมาตุคามนั้นนั่นแล้ว พูดขึ้นด้วยธรรม ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือด้วยสังฆาทิเสสก็ดี ด้วยปาจิตตีย์ก็ดี ภิกษุปฏิญาณซึ่งการนั่ง พึงถูกปรับด้วยธรรม ๒ ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ ด้วยสังฆาทิเสสบ้าง ด้วยปาจิตตีย์บ้าง อีกอย่างหนึ่ง อุบาสิกามีวาจาที่เชื่อได้นั้นกล่าวด้วยธรรมใด ภิกษุนั้นพึงถูกปรับด้วยธรรมนั้น แม้ธรรมนี้ชื่อ อนิยต.

 

 

อ่าน อนิยตสิกขาบทที่ ๒

อ้างอิง
อนิยตสิกขาบทที่ ๒ พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑ ข้อที่ ๖๔๔ หน้า ๗๔๘-๗๔๙
ลำดับที่
4

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรมวินัย

ธรรมวินัย