Main navigation

นิสสัคคิยปาจิตตีย์_สิกขาบทที่ ๒

ว่าด้วย
การอยู่ปราศจากไตรจีวรแม้ราตรีหนึ่ง
เหตุการณ์
ภิกษุหลายรูปฝากผ้าสังฆาฏิไว้แก่ภิกษุอื่นแล้ว มีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกจาริกไปในชนบท ผ้าสังฆาฏิเหล่านั้นถูกเก็บไว้นาน ก็ขึ้นรา พระอานนท์จึงนำความทูลพระผู้มีพระภาค พระองค์ทรงติเตียนและทรงบัญญัติสิกขาบทเนื่องด้วยการอยู่โดยปราศจากจีวร

พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี  ครั้งนั้น ภิกษุหลายรูปฝากผ้าสังฆาฏิไว้แก่ภิกษุทั้งหลายแล้ว มีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกจาริกไปในชนบท ผ้าสังฆาฏิเหล่านั้นถูกเก็บไว้นานก็ขึ้นรา ภิกษุทั้งหลายจึงผึ่งผ้าสังฆาฏิเหล่านั้น

ท่านพระอานนท์เที่ยวตรวจดูเสนาสนะ ได้พบภิกษุเหล่านั้นกำลังผึ่งผ้าสังฆาฏิอยู่  จึงถามว่าจีวรที่ขึ้นราเหล่านี้ของใคร เมื่อภิกษุเหล่านั้นแจ้งความนั้นแก่ท่านพระอานนท์แล้ว ท่านพระอานนท์จึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุทั้งหลายจึงได้ฝากผ้าสังฆาฏิ แล้วมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกจาริกไปในชนบท

แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงสอบถามภิกษุเหล่านั้นและทรงติเตียนว่า

การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น นั่นไม่เหมาะ ไม่สม ไม่ควร ไม่ใช่กิจของสมณะ ใช้ไม่ได้ ไม่ควรทำ ไฉนภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น จึงได้ฝากผ้าสังฆาฏิไว้ แล้วมีแต่ผ้าอุตราสงค์กับผ้าอันตรวาสกจาริกไปในชนบท การกระทำของภิกษุโมฆบุรุษเหล่านั้น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว ฯลฯ

พระผู้มีพระภาคทรงติเตียนภิกษุเหล่านั้นโดยอเนกปริยายแล้ว ตรัสโทษแห่งความเป็นคนเลี้ยงยาก ความเป็นคนบำรุงยาก ความเป็นคนมักมาก ความเป็นคนไม่สันโดษ ความคลุกคลี ความเกียจคร้าน ตรัสคุณแห่งความเป็นคนเลี้ยงง่าย ความเป็นคนบำรุงง่าย ความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความจำกัด อาการที่น่าเลื่อมใส การไม่สะสม การปรารภความเพียรโดยอเนกปริยาย ทรงกระทำธรรมีกถาที่สมควรแก่เรื่องนั้น ที่เหมาะสมแก่เรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย

แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจประโยชน์ ๑๐ ประการ ฯลฯ ว่าดังนี้

จีวรของภิกษุสำเร็จแล้ว กฐินเดาะเสียแล้ว ถ้าภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวร แม้สิ้นราตรีหนึ่ง เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์

สมัยนั้นมีภิกษุรูปหนึ่งอาพาธอยู่ในพระนครโกสัมพี พวกญาติส่งทูตไปในสำนักภิกษุนั้นเพื่อนิมนต์ท่านไปพยาบาล แต่ท่านไม่ไปเพราะพระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทไว้ว่า ภิกษุไม่พึงอยู่ปราศจากไตรจีวร ท่านกำลังอาพาธ ไม่สามารถจะนำไตรจีวรไปด้วยได้ ท่านจักไม่ไป

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค จึงทรงอนุญาตให้สมมติติจีวราวิปวาส โดยรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า

พระองค์อนุญาตให้สมมติ เพื่อไม่เป็นการอยู่ปราศจากไตรจีวรแก่ภิกษุผู้อาพาธ

พระองค์ทรงกำหนดวิธีสมมติจีวราวิปวาส และทรงมีพระอนุบัญญัติเพิ่มเติม ดังนี้

จีวรของภิกษุสำเร็จแล้ว กฐินเดาะเสียแล้ว ถ้าภิกษุอยู่ปราศจากไตรจีวรแม้สิ้นราตรีหนึ่ง เว้นแต่ภิกษุได้รับสมมติ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์

 

 

อ่าน จีวรวรรค สิกขาบทที่ ๒

 

 

อ้างอิง
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒ ข้อ ๑๐-๓๑
ลำดับที่
6

Keywords

จีวร

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรมวินัย

ธรรมวินัย