โอวาทพระราหุล
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่พระราหุลในเรื่อง มุสา และกรรม ๓
การมุสา พระพุทธองค์ตรัสว่า
- สมณธรรมของผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสาทั้งที่รู้อยู่ เป็นเสมือนของที่เขาทิ้งเสีย คว่ำเสียแล้ว เป็นของว่างเปล่า
- บุคคลผู้ไม่มีความละอายในการกล่าวมุสาที่ไม่เคยทำบาปกรรม ไม่มี
- บุคคลไม่ควรกล่าวมุสา แม้จะเป็นการกล่าวเล่นกัน
กรรม ๓ พระพุทธองค์ตรัสว่า
- ก่อนจะทำกรรมใดๆ ให้พิจารณาก่อนว่ากรรมนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล หากเป็นกุศลให้ทำ หากเป็นอกุศล อย่าทำ
- หากกำลังทำกรรมใดอยู่ ให้พิจารณาว่ากรรมที่ทำอยู่นั้นเป็นกุลศลหรืออกุศล หากเป็นกุศลให้ทำให้มากขึ้น หากเป็นอกุศล ให้เลิกทำ
- หากเคยทำกรรมใดไป ให้พิจารณาว่ากรรมที่ทำไปนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล หากเป็นกุศลให้ปิติและยินดีในกรรมนั้น และอยู่ด้วยกรรมนั้น หากเป็นอกุศล ให้บอกแก่กัลยาณมิตรและพึงสำรวมต่อไป
กุศลกรรม กรรมที่ไม่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง มีสุขเป็นกำไร มีสุขเป็นวิบาก
อกุศลกรรม กรรมที่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนบ้าง เพื่อเบียดเบียนผู้อื่นบ้าง และเพื่อเบียดเบียนทั้งตนและผู้อื่นบ้าง มีทุกข์เป็นกำไร มีทุกข์เป็นวิบาก
- บุคคลพึงชำระกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ได้ด้วยการพิจารณา
อ่าน จูฬราหุโลวาทสูตร