สังฆาทิเสส สิกขาบทที่ ๔
ว่าด้วย
การให้บำเรอความใคร่ของตน
เหตุการณ์
เหตุเป็นเค้ามูลให้พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติสิกขาบทว่าด้วยการให้บำเรอความใคร่
ท่านพระอุทายีได้ยังสตรีหม้ายหนึ่งให้เห็นแจ้ง สมาทาน อาจหาญ ร่าเริงด้วยธรรมีกถา หญิงนั้นได้ปวารณาท่านพระอุทายีว่าต้องการสิ่งใดจะสามารถจัดถวายให้ได้ พระอุทายีได้กล่าวขอของที่หาได้ยาก คือ เมถุนธรรมต่อสตรีหม้ายนั้น
เพราะเหตุแรกเกิดที่พระอุทายีกล่าวคุณแห่งการบำเรอตนด้วยกามในสำนักมาตุคาม เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงทราบเรื่อง จึงกล่าวติเตียนการกระทำนั้น แล้วทรงบัญญัติสิกขาบทว่าดังนี้
ภิกษุใดกำหนัดแล้ว มีจิตแปรปรวนแล้ว กล่าวคุณแห่งการบำเรอกามของตนในสำนักมาตุคาม ด้วยถ้อยคำพาดพิงเมถุนว่า สตรีใดบำเรอผู้ประพฤติพรหมจรรย์มีศีล มีกัลยาณธรรมเช่นเรา ด้วยธรรมนั่น นั่นเป็นยอดแห่งความบำเรอทั้งหลาย เป็นสังฆาทิเสส
อ่าน สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔
อ้างอิง
สังฆาทิเสสสิกขาบทที่ ๔ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑ ข้อที่ ๔๑๔-๔๑๕ หน้า ๕๔๖-๕๔๙
ชุดที่
ลำดับที่
10