เรวตพุทธวงศ์ที่ ๕
สมัยต่อมาจากพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุมนะ พระพุทธเจ้าพระนามว่า เรวตะ ได้อุบัติขึ้น มีพระคุณสูงสุดไม่มีใครเปรียบเทียบเสมอ
พระชาติ
ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า สุธัญญกะ
พระชนกพระนามว่า วิปุละ
พระชนนีพระนามว่า พระนางวิปุลา
พระมเหสีพระนามว่า สุทัสนา
พระราชโอรสพระนามว่า วรุณ
มีพระสนมนารีกำนัลใน ๓ โกฏ ๓๐๐,๐๐๐ นาง
มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อว่า สุทัสนะ รัตนัคฆิ และอาเวฬะ
ทรงครองเรือนอยู่ ๖,๐๐๐ ปี
ออกบวช บำเพ็ญเพียร ตรัสรู้ และประกาศธรรมจักร
พระองค์ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการแล้ว เสด็จออกผนวชด้วยรถอันเป็นราชยานที่นั่งต้น ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ เดือนเต็ม ก็ได้ตรัสรู้พระสัมโพธิญาณ
พรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศธรรมจักร ประทับอยู่ ณ วรุณาราม
ธรรมาภิสมัย ๓ วาระ
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๑ มีผู้ตรัสรู้คำนวณไม่ได้
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ทรงแสดงธรรมแก่พระเจ้าอรินทมหาราช ธรรมาภิสมัยได้มีแก่มนุษย์และเทวดา ๑,๐๐๐ โกฏิ
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ ทรงแสดงธรรมเมื่อเสด็จออกจากที่เร้น ๗ วัน ธรรมาภิสมัยได้มีแก่มนุษย์และเทวดาในผลชั้นสูง ๑๐๐ โกฏิ
ประชุมพระสาวก ๓ ครั้ง
ครั้งที่ ๑ พระภิกษุมาประชุมกัน จำนวนเกินที่จะนับได้
ครั้งที่ ๒ พระภิกษุมาประชุมกัน ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ
ครั้งที่ ๓ พระองค์ทรงประชวรจวนจะเสด็จนิพพาน พระภิกษุผู้ขีณาสพมาเฝ้าเพื่อทูลถามอาการประชวร มาประชุมกัน ๓๐๐,๐๐๐ โกฏิ
บุคคลสำคัญ
พระอัครสาวก : พระวรุณเถระและพระพรหมเทวเถระ
พระอุปัฏฐาก : พระสัมภวะเถระ
พระอัครสาวิกา : พระภัททาเถรีและพระสุภัททาเถรี
อัครอุปัฏฐาก : วรุณอุบาสกและสรภอุบาสก
อุปัฏฐายิกา : ปาลาอุบาสิกาและอุปปาลาอุบาสิกา
ไม้โพธิพฤกษ์
ต้นกากะทิง
พระชนมายุ พระวรกาย และพระรัศมี
ทรงมีพระชนมายุ ๖๐,๐๐๐ ปี
สูง ๘๐ ศอก
พระรัศมีอันเป็นระเบียบที่เกิดในพระพุทธสรีระสว่างไสวไปทั่วทิศ แผ่ไปโยชน์หนึ่งโดยรอบทั้งกลางวันและกลางคืน
เสด็จนิพพาน
เมื่อพระเรวตพุทธเจ้าเสด็จนิพพานแล้ว พระธาตุของพระองค์แผ่ไปกว้างขวาง
พระพุทธพยากรณ์พระโคตมพุทธเจ้า
สมัยนั้น พระพุทธเจ้าโคดมเป็นพราหมณ์นามว่า อติเทพ
ได้เข้าไปเฝ้าพระเรวตพุทธเจ้าแล้ว ถึงพระองค์เป็นสรณะ ได้ชมเชยศีล สมาธิ และพระปัญญาคุณอันยอดเยี่ยมของพระเรวตพุทธเจ้าแล้ว ถวายจีวรแก่พระองค์ตามกำลัง
พระเรวตพุทธเจ้า ทรงประทานพยากรณ์ว่า “ผู้นี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก”
เมื่อพราหมณ์อติเทพได้ฟังพระพุทธพยากรณ์นั้นแล้ว ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ให้ยิ่งขึ้นไป แม้ครั้งนั้น พราหมณ์อติเทพได้ระลึกถึงพระพุทธการกธรรม แล้วตามเพิ่มพูนว่า ตนจักนำมาซึ่งธรรมนั้น อันเป็นธรรมที่ปรารถนายิ่ง
อ่าน เรวตพุทธวงศ์ที่ ๕