แสงธรรมแห่งพระไตรปิฎก

สมัยต่อมาจากพระปทุมบรมศาสดา พระสัมพุทธเจ้ามีพระนามว่า นารทะ เป็นบุคคลผู้ไม่มีใครเปรียบเสมอ

พระชาติ

ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า ธัญญวดี
พระชนกพระนามว่า สุเทพ
พระชนนีพระนามว่า พระนางอโนมา
พระมเหสีพระนามว่า วิชิตเสนา
พระราชโอรสพระนามว่า นันทุตตระ
มีพระสนมนารีกำนัลใน ๔๓,๐๐๐ นาง
มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อว่า ชิตะ วิชิตะ และอภิรามะ
ทรงครองเรือนอยู่ ๙,๐๐๐ ปี

ออกบวช บำเพ็ญเพียร ตรัสรู้ และประกาศธรรมจักร

พระองค์ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการแล้ว เสด็จออกผนวชราชรถอันเป็นราชยาน ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน ก็ได้ตรัสรู้พระสัมโพธิญาณ

พรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศธรรมจักร ณ ธนัญชอุทยานอันประเสริฐ

ธรรมาภิสมัย ๓ วาระ

ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๑ ทรงประกาศธรรมจักร ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ

ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ทรงปราบนาคราชผู้มีตัวโตเท่าเรือโกลนใหญ่ ได้ทรงปาฏิหาริย์แสดงมนุษยโลกและเทวโลกให้เห็นพร้อมกัน การแสดงพระธรรมเทศนาครั้งนั้น ธรรมาภิสมัยได้มีแก่เทวดาและมนุษย์ ๙๐,๐๐๐ โกฏิ

ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ ทรงตรัสสอนพระราชโอรสของพระองค์ ธรรมาภิสมัยได้มีแก่เทวดาและมนุษย์ ๘๐,๐๐๐ โกฏิ

ประชุมพระสาวก ๓ ครั้ง

ครั้งที่ ๑ พระสาวกมาประชุมกัน ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ 

ครั้งที่ ๒ พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธคุณพร้อมด้วยเหตุ พระสาวกมาประชุมกัน
 ๙๐,๐๐๐ โกฏิ

ครั้งที่ ๓ ในคราวที่เวโรจในนาคราชถวายทานแด่พระพุทธเจ้า พระสาวกมาประชุมกัน ๘๐,๐๐๐ โกฏิ

บุคคลสำคัญ

พระอัครสาวก : พระภัททสาลเถระและพระชิตมิตตเถระ
พระอุปัฏฐาก : พระวาเสฏฐะเถระ
พระอัครสาวิกา : พระอุตตราเถรีและพระผัคคุนีเถรี
อัครอุปัฏฐาก : อุคครินทอุบาสกและวสภอุบาสก
อุปัฏฐายิกา : อินทวรีอุบาสิกาและคัณฑีอุบาสิกา

ไม้โพธิพฤกษ์

ไม้อ้อยช้างใหญ่

พระชนมายุ พระวรกาย และพระรัศมี

ทรงมีพระชนมายุ ๙๐,๐๐๐ ปี
สูง ๘๘ ศอก
พระรัศมีงามเช่นกับทองคำล้ำค่าสว่างไสวไปในหมื่นโลกธาตุ พระองค์มีพระรัศมีซ่านออกจากพระวรกายด้านละวา ซ่านออกไปทั่วทิศ แผ่ไปไกลโยชน์หนึ่งทั้งกลางวันกลางคืน สมัยนั้น ในระยะโยชน์หนึ่งโดยรอบ ใคร ๆ ไม่ต้องตามประทีปโคมไฟ

เสด็จนิพพาน

พระนารทพุทธเจ้าเสด็จนิพพาน ณ สุทัสนนคร

พระสถูปสูง ๔ โยชน์ ประดิษฐานอยู่ ณ นครนั้น

พระพุทธพยากรณ์พระโคตมพุทธเจ้า

สมัยนั้น พระพุทธเจ้าโคดมเป็นชฎิล มีตบะอันรุ่งเรือง ถึงที่สุดในอภิญญา ๕ เหาะไปในอากาศได้

ได้ถวายข้าวและน้ำให้พระนารทพุทธเจ้า พระบรมศาสดาทรงเสวยพร้อมด้วยพระสงฆ์และบริวาร แล้วได้บูชาด้วยไม้จันทน์

พระนารทพุทธเจ้าทรงประทานพยากรณ์แก่ชฏิลนั้นว่า จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก

เมื่อได้ฟังพระพุทธพยากรณ์นั้นแล้ว มีใจยินดีอย่างยิ่ง อธิษฐานวัตรเป็นอย่างเลิศเพื่อบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ

อ่าน นารทพุทธวงศ์ที่ ๙