สิทธัตถพุทธวงศ์ที่ ๑๖
สมัยต่อจากพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าพระนามว่า สิทธัตถะ ทรงกำจัดความมืดทั้งปวง
พระชาติ
ทรงเป็นกษัตริย์โดยพระชาติของนครชื่อว่า เวภาระ
พระชนกพระนามว่า อุเทน
พระชนนีพระนามว่า พระนางสุผัสสา
พระมเหสีพระนามว่า สุมนา
พระราชโอรสพระนามว่า อนูปมะ
มีพระสนมนารีกำนัลใน ๔๘,๐๐๐ นาง
มีปราสาทอันประเสริฐ ๓ ปราสาท ชื่อ กกาสะ อุปละ และโกกนุทะ ทรงมี
ทรงครองเรือนอยู่ ๑๐,๐๐๐ ปี
ออกบวช บำเพ็ญเพียร ตรัสรู้ และประกาศธรรมจักร
พระองค์ทรงเห็นนิมิต ๔ ประการแล้ว เสด็จออกผนวชด้วยวอทอง ทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ ๑๐ เดือนเต็ม ก็ได้ตรัสรู้พระสัมโพธิญาณ
พรหมทูลอาราธนาแล้ว ทรงประกาศธรรมจักร ณ มฤคทายวัน
ธรรมาภิสมัย ๓ วาระ
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๑ ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๒ ทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่ภีมรัฐ ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ ๙๐ โกฏิ
ธรรมาภิสมัยครั้งที่ ๓ ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ที่เวภารบรรพต ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ ๙๐ โกฏิ
ประชุมพระสาวก ๓ ครั้ง
ครั้งที่ ๑ พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกัน ๑๐๐ โกฏิ
ครั้งที่ ๒ พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกัน ๙๐ โกฏิ
ครั้งที่ ๓ พระภิกษุขีณาสพมาประชุมกัน ๘๐ โกฏิ
บุคคลสำคัญ
พระอัครสาวก : พระสัมพลเถระและพระสุมิตตเถระ
พระอุปัฏฐาก : พระเรวตะเถระ
พระอัครสาวิกา : พระสีวลาเถรีและพระสุรามาเถรี
อัครอุปัฏฐาก : สุปปิยอุบาสกและสัมพุทธอุบาสก
อุปัฏฐายิกา : รัมมาอุบาสิกาและสุรัมมาอุบาสิกา
ไม้โพธิพฤกษ์
กรรณิการ์
พระชนมายุ พระวรกาย และพระรัศมี
ทรงมีพระชนมายุ ๑๐๐,๐๐๐ ปี
สูง ๖๐ ศอก
งามเปล่งปลั่งดั่งทองคำ รุ่งเรืองไปในหมื่นโลกธาตุ
เสด็จนิพพาน
พระธรรมทัสสีพุทธเจ้าเสด็จนิพพาน ณ อโนมาราม
พระสถูปของพระองค์สูง ๔ โยชน์ ประดิษฐานอยู่ที่อโนมาราม
พระพุทธพยากรณ์พระโคตมพุทธเจ้า
สมัยนั้น พระพุทธเจ้าโคดมเป็นดาบสชื่อว่า มงคล มีเดชอันรุ่งเรือง ยากที่ผู้อื่นจะข่มได้ ประกอบด้วยกำลังแห่งอภิญญา
ได้นำเอาผลหว้ามาถวายแด่พระสิทธัตถสัมพุทธเจ้า
พระสิทธัตถพุทธเจ้าทรงประทานพยากรณ์แก่ดาบสว่าในกัปที่ ๙๔ จากกัปนี้ ดาบสนี้จักได้เป็นพระพุทธเจ้าในโลก
เมื่อได้ฟังพระพุทธพยากรณ์แม้นั้นแล้ว ก็ยังจิตให้เลื่อมใสอย่างยิ่ง ได้อธิษฐานวัตรในการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการยิ่งขึ้นไป