พระภัททิยะเถระ
เมื่อท่านพระภัททิยะไปสู่ป่า โคนไม้ หรือเรือนว่าง มักเปล่งอุทานเนือง ๆ ว่า สุขหนอ สุขหนอ ทำให้ภิกษุหลายรูปเข้าใจว่าท่านฝืนใจประพฤติพรหมจรรย์ หรือไม่ก็ระลึกถึงสุขในราชสมบัติจึงไปทูลแก่พระผู้มีพระภาค
เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงถามพระภัททิยะว่าเห็นประโยชน์อันใดจึงเปล่งอุทาน สุขหนอ สุขหนอ พระภัททิยะตอบว่า เมื่อก่อนท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แม้จะมีการคุ้มกันอย่างเข้มแข็งทั้งภายในและภายนอกพระราชวัง ภายในและภายนอกพระนคร ภายในและภายนอกชนบท เป็นผู้ที่มีคนทั้งหลายรักษาคุ้มครองแล้ว แต่ท่านก็ยังมีความกลัว หวั่นหวาด ยังสะดุ้งอยู่ แต่บัดนี้ แม้จะไปสู่ป่า โคนไม้หรือเรือนว่าง เพียงลำพังผู้เดียวก็ไม่กลัว ไม่หวั่นหวาด ไม่สะดุ้ง มีความขวนขวายน้อย เป็นอยู่ด้วยปัจจัย ๔ ที่ผู้อื่นให้ ดังนี้ จึงเปล่งอุทานเนือง ๆ ว่า สุขหนอ สุขหนอ
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงเปล่งอุทานคาถาว่า
บุคคลใดไม่มีความโกรธภายในจิต และก้าวล่วงภพน้อยภพใหญ่เสียได้ เทวดาทั้งหลายไม่อาจเล็งเห็นวาระจิตของบุคคลนั้น เป็นผู้ปลอดภัย มีสุข ไม่มีโศก
ต่อมา ท่านพระภัททิยะ ได้รับการยกย่องจากพระผู้มีพระภาคให้เป็นเอตทัคคะในด้านเป็นผู้มีสกุลสูง
อ่าน พระภัททิยะ