เสด็จกรุงกบิลพัสดุ์
พระพุทธเจ้าเสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์ ประทับที่นิโครธาราม เหล่าพระญาติผู้ใหญ่ไม่ยอมถวายบังคมเนื่องจากถือว่าตนสูงวัยกว่า
พระผู้มีพระภาคจึงทรงแสดงปาฏิหาริย์ราวกับว่าจะทรงโปรยธุลีพระบาทลงบนเศียรแห่งพระญาติเหล่านั้น เมื่อเห็นดังนั้น พระเจ้าสุทโธทนะได้ถวายบังคมพระบาทของพระพุทธองค์ ซึ่งเคยทำมาแล้วสองครั้ง คือ ครั้งแรกหลังจากที่พระโอรสประสูติแล้ว ๗ วัน ด้วยเห็นปาฏิหาริย์ว่าพระบาทของพระองค์ไปประดิษฐานบนชฎาของอสิตฤาษี และครั้งที่สอง คือ วันวัปปมงคลแรกนาขวัญ พระบิดาเห็นเงาไม้หว้าที่พระราชบุตรประทับไม่ได้คล้อยไปตามแสงตะวัน
เหล่าพระญาติจึงถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ฝนโบกขรพรรษได้ตกลงมา น้ำฝนแม้หยดหนึ่งก็ไม่ได้ตกลงบนสรีระของผู้ใด พระผู้มีพระภาคทรงตรัสเล่าเวสสันดรชาดกแก่พระญาติ ซึ่งเมื่อฟังจบไม่มีผู้ใดทูลนิมนต์ให้รับบิณฑบาตเลย
วันที่สอง พระพุทธองค์เสด็จเข้าไปบิณฑบาตในกรุงกบิลพัสดุ์ พระเจ้าสุทโธทนะเสด็จไปทรงห้ามด้วยว่าไม่เคยมีกษัตริย์องค์ใดออกไปภิกขาจารเช่นนี้
พระพุทธองค์จึงตรัสพระคาถาว่า
บุคคลไม่ควรประมาทในบิณฑบาตที่ตนได้รับ
ควรประพฤติธรรมให้สุจริต
บุคคลผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
เมื่อกล่าวจบ พระพุทธบิดาได้บรรลุโสดาปัตติผล
วันที่สาม ทรงเสด็จเข้าในพระราชนิเวศน์ ภายหลังภัต ทรงแสดงคาถาว่า
บุคคลควรประพฤติธรรมให้สุจริต
ผู้ประพฤติธรรมเป็นปกติ
ย่อมอยู่เป็นสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า
ทำให้พระพุทธบิดาสำเร็จสกทาคามิผล และพระนางมหาปชาบดีโคตมี ได้บรรลุโสดาปัตติผล
อ่าน พระเจ้าสุทโธทนะ