การปูชาที่ทรงสรรเสริญ
พวกเราจักทำอย่างไรหนอแล เมื่อพระศาสดาตรัสบอกว่าการปรินิพพานของพระองค์จักมีในอีก ๔ เดือนข้างหน้า
เมื่อพระศาสดาตรัสบอกว่าการปรินิพพานของพระองค์จักมีในอีก ๔ เดือนข้างหน้า ภิกษุหลายพันรูปเที่ยวแวดล้อมพระศาสดาอยู่ ในบรรดาภิกษุเหล่านั้น ภิกษุผู้ยังเป็นปุถุชนไม่อาจจะอดกลั้นน้ำตาไว้ได้ ภิกษุผู้ขีณาสพเกิดธรรมสังเวช ภิกษุเหล่านั้นปรึกษากันว่า
“พวกเราจักทำอย่างไรหนอแล” ดังนี้แล้ว ก็เที่ยวไปโดยรวมกันเป็นพวก ๆ
ภิกษุเหล่านั้นร่วมประชุมกันพูดว่า “จะทำอย่างไร ผู้มีอายุ” แต่ก็ไม่ได้คำตอบ
ส่วนภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่าธรรมารามะ ไม่ได้เข้าประชุม ด้วยคิดว่า “ข่าวว่า พระศาสดาจักปรินิพพานในอีก ๔ เดือน ส่วนเราเป็นผู้มีราคะอยู่ เมื่อพระศาสดายังทรงพระชนม์อยู่นี้แหละ เราจักพยายามบรรลุพระอรหัต” ดังนี้แล้ว ก็เป็นอยู่ผู้เดียวเท่านั้น นึกคิดระลึกถึงธรรมที่พระศาสดาทรงแสดงแล้ว
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระตถาคตว่า
“พระพุทธเจ้าข้า พระธรรมารามะมิได้มีความเยื่อใยในพระองค์ ไม่ทำแม้การปรึกษากับพวกข้าพระองค์ว่า ข่าวว่าพระศาสดาจักปรินิพพาน พวกเราจักทำอย่างไรกันเล่า”
พระศาสดารับสั่งให้เรียกเธอมาแล้ว ตรัสถามว่า “ข่าวว่า เธอทำอย่างนั้น จริงหรือ”
“จริง พระพุทธเจ้าข้า”
“เพราะเหตุอะไร”
“ข่าวว่า พระองค์จักปรินิพพานในอีก ๔ เดือนข้างหน้า ส่วนข้าพระองค์ยังเป็นผู้มีราคะอยู่ เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่นี้แหละ ข้าพระองค์จักพยายามบรรลุพระอรหัต เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์จึงนึกคิด ระลึกถึงธรรมที่พระองค์ทรงแสดงแล้วอยู่”
พระศาสดาประทานสาธุการแก่เธอว่า “ดีละ ๆ” แล้วตรัสว่า
“ภิกษุทั้งหลายอันภิกษุผู้มีความรักใคร่ในเรารูปอื่น พึงเป็นเช่นภิกษุ ธรรมารามะนี้แหละ
แท้จริง ภิกษุทั้งหลายเมื่อทำการบูชาด้วยระเบียบและของหอมเป็นต้น หาชื่อว่าทำการบูชาแก่เราไม่ ผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเท่านั้น จึงชื่อว่าบูชาเรา”
อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบถ ภิกขุวรรคที่ ๒๕ เรื่องพระธรรมารามเถระ