Main navigation

ขอพรตอนไหนดีเวลาสวดมนต์

Q ถาม :

จากที่ทราบมาว่าบทสวดมนต์แต่ละบทก็จะมีอานุภาพแตกต่างกัน สมมติถ้าเรามีสวดหลายบท เราควรจะสวดทุกบทให้ครบทั้งหมดก่อน แล้วค่อยมาอธิษฐานขอพรและแผ่บุญครั้งสุดท้าย หรือเราควรจะจบบทหนึ่งแล้วก็อธิษฐานไปแต่ละเรื่อง ๆ ดีกว่าคะ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

อานุภาพที่เกิดจากการสวดมนต์ มี ๓ ประการ คือ

๑. จะเกิดธรรมานุภาพ ธรรมานุภาพนี้จะมีทั้งธรรมานุภาพที่เป็นตัวสัจจะ และธรรมานุภาพที่เป็นสภาวะ

๒. จะเกิดเทวานุภาพ เทวานุภาพคือผู้ที่ได้ยินเสียงสวดมนต์เรา หรือมาร่วมสวดมนต์กับเรา หรือผู้ที่ดูแลระบบธรรมอยู่ เมื่อเราสวดมนต์บทใหญ่ ๆ เช่นธรรมจักร, ชินบัญชร, ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก พวกนี้บางครั้งก็มาร่วมด้วย มันก็จะได้อานุภาพของเทวานุภาพที่มาร่วม

๓. จะเกิดจิตตานุภาพ คือ สติ สมาธิ ปัญญา ของผู้สวดเอง เมื่อสติสมาธิดี จิตก็มีกำลัง เมื่อปัญญาดี จิตก็สว่าง เมื่อปล่อยวางได้ จิตก็โล่ง เป็นจิตตานุภาพ

ดังนั้น ถ้าเราอยากจะอธิษฐานเพื่อให้ได้อะไรก็ควรจะทำให้ได้อานุภาพดังกล่าวก่อน แล้วจึงอธิษฐาน แผ่บุญ อุทิศกุศล อย่างนี้จึงมีกุศลที่จะอุทิศจริง อธิษฐานก็จะมีกำลัง

 

ถาม

หากเราสวดมนต์ผิดจะเป็นอะไรไหมคะ

อาจารย์ไชย ณ พล

ไม่ต้องกังวลในเรื่องนั้น ให้เอาตัวสภาวะเป็นหลัก เพราะว่าภาษาทั้งหมดเป็นเพียงแค่เครื่องมือในการสื่อสารให้เข้าใจกัน ซึ่งในแต่ละประเทศก็สวดไม่เหมือนกัน เช่น เราสวด “นะโม ตัสสะฯ” แต่พอไปศรีลังกาสวด  “นะโม ตเส” ถ้าไปทิเบตสวด “นัมโม ตัสสะ” ไม่เหมือนกันเลย แต่เข้าใจ

ดังนั้น เอาความเข้าใจ เอาตัวสภาวะเป็นหลัก ไม่ต้องสนใจสมมติมากนักว่าไม่รู้ออกเสียงอักขระถูกหรือไม่ กำหนดสติให้แน่ว สติแน่วก็คือกำลัง

 

 

คำที่เกี่ยวข้อง :

สติ สภาวะ สวดมนต์