Main navigation

จิตของคนที่ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้ ยังรับรู้อยู่หรือไม่

Q ถาม :

คุณแม่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล ร่างกายตอบสนองอะไรไม่ได้เลย จิตใจคุณแม่ยังรับรู้อยู่หรือไม่ บางทีเหมือนเขาอยู่ในภวังค์ บางทีเขาก็รู้เรื่อง เรามีอะไรที่จะทำให้จิตตื่นได้หรือไม่คะ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

โดยหลักการ จิตจะรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับ 1. การใส่ใจ  2. การทำงานของระบบประสาทและสมอง 3. กรรม

หากจิตดีใส่ใจ และประสาทไม่ทำงาน หากกรรมเปิดไม่ปิดกั้น ก็จะรู้แต่ไม่สนองตอบ หากกรรมไม่ดีปิดกั้น ก็จะรู้เลือนๆ

หากจิตไม่ใส่ใจ ประสาททำงาน ก็ไม่รู้ เช่นคนนอนหลับแต่ปิดตาไม่สนิท แสงเข้าตากระทบจักษุประสาท ก็ไม่เห็นอะไร

หากร่างกายแม่ยังดี ค่อยหาวิธีปลุก ปลุกได้ด้วยการ เบิกบุญเพื่อปณิธานใหญ่

หากร่างกายไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องพยายามปลุกแม่ เพราะคนที่จะเกิดไม่ให้เขาเกิด เป็นบาป ไม่ได้หมายถึงการทำหมันเป็นบาปนะ อันนั้นเป็นสิทธิ์ส่วนตัว แต่เวลาเขาอยู่ในมดลูกแล้วไม่ให้เขาเกิดเป็นบาป คนจะอยู่ไม่ให้เขาอยู่ ไปทำให้เขาตายเป็นบาป ไปลิดรอนสิทธิ์ของเขา คนจะตายไม่ให้เขาตายก็บาป ไป interfere กระบวนการออกจากทุกข์แห่งภพชาติของเขา

มนุษย์ทุกวันนี้แปลกมากเลย กลัวตาย กลัวคนที่รักตาย ทั้ง ๆ ที่ต้องตายแน่ กลัวไปก็ไร้ประโยชน์ ที่เรากลัวเพราะเราไม่รู้จักความตาย ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย ความตายเป็นโอกาสในการ make a transition ของจิตใจ จริง ๆ แล้วชีวิตในโลกนี้มันสั้นนัก ไม่เกินร้อยปีก็ตายกันแล้ว แต่ชีวิตหลังความตายมันยืนยาว ถ้าขึ้นสวรรค์ไปชั้นจาตุมหาราชิกานี่ก็เป็นล้านปี ไปชั้นดาวดึงส์ก็เก้าล้านปี ไปเป็นพรหมนี่อยู่กันเป็นกัป  ไปเป็นเปรตก็เป็นล้านปี ลงนรกก็เป็นกัป มีสัตว์เดรัจฉานเท่านั้นที่มีทั้งสั้นและยาวกว่ามนุษย์ แมลงจะประมาณเจ็ดวัน เต่าจะประมาณสามร้อยปี ช้างร้อยห้าสิบปี อย่างนี้เป็นต้น

ชีวิตในโลกแสนสั้นนี่ มันเป็นสนาม เราทุกคนถูกปล่อยลงสนามเพื่อเล่นเกมกรรม ใครทำดีก็ไปสุคติ ใครทำบาปก็ไปทุคติ พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ในขณะจะตาย หากจิตเธอเป็นสุข สุคติเป็นอันหวังได้ หากเวลาจะตาย จิตเธอเป็นทุกข์ ทุคติเป็นอันหวังได้”

ดังนั้น หน้าที่ของลูกหลานทั้งหมดจะต้องประคับประคองให้บุพการีของเราเป็นสุขในขณะที่จะตาย transition mind นั่นแหละเป็นอาสันนกรรมที่สร้างจุติจิตให้เกิดภพภูมิใหม่ ดังนั้นทำให้เป็นสุขที่สุด อย่าไปห่วง แม่อย่าตายนะ แม่ไม่เป็นไรหรอก พ่ออย่าทิ้งหนูไปอะไรประเภทนี้ นั่นทำให้จิตพ่อแม่ไม่ดี แล้วไปไม่ดี

ควรทำให้พ่อแม่หมดห่วง ไม่ต้องกังวลกับลูกหลานอีกแล้ว ลูกหลานอยู่กันได้ ปรองดองสามัคคีกันดี ไม่ต้องกังวลกับร่างกายแล้วนะเพราะร่างกายมันก็คือธาตุแค่นั้นเอง หากมันชำรุดก็ซ่อมให้แม่ใช้ หากมันโปเกไม่ยอมทำงานแล้ว เปลี่ยนร่างกายให้แม่ใหม่ซะเลย ปล่อยให้ไปเกิดใหม่ยังได้ร่างกายใหม่สดใสกว่าเดิม จะทู่ซี้ให้พ่อแม่ทรมานกับร่างกายโปเกทำไม

หากเราไม่ปลุกแม่ แม่จะไปที่ดี ๆ ได้อย่างไร?

ไม่ต้องห่วง ไปได้ด้วย

1) บุญของเขานำเขาไปเอง

2) หากแม่ไม่มีบุญดี ๆ เรารีบทำบุญใหญ่ให้แม่ ให้บุญใหญ่ใหม่นี้นำไป 

3) หากไม่มีบุญดีเลย นายเวรชุดยมทูตจะมารับไปเอง หากตายโดยไม่รู้ตัว เขาจะพาไปอยู่สถานพักฟื้นวิญญาณซึ่งอยู่ตรงรอยต่อของภพ เมื่อฟื้นดีแล้ว จึงส่งไปตามกรรม

แต่ทั้งหมดนี้ ยังอยู่ในวงกตกรรม ดีที่สุดคือดับตัณหาตัวอยากเกิดอีก น้อมเข้าสู่อมตธาตุ ก็พ้นกรรมและความตายถาวร

 

 

ที่มา
Best of All CD, Track 24, เวลา 39:16