Main navigation

ทำบุญมากได้มากจริงไหม

Q ถาม :

อยากเรียนถามว่าหากทำบุญมากแล้วจะได้มากจริงไหมคะ ประมาณว่าทุ่มสุดฤทธิ์ค่ะ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

ทำบุญจะได้มากหรือได้น้อยขึ้นอยู่กับตัวแปร ๓ ตัว คือ ๑) เจตนาของผู้ให้  ๒) สภาวะของผู้รับ  ๓) ผลต่อเนื่อง จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ factor สามตัวนี้

พระผู้มีพระภาคทรงสอนว่า ถ้าผู้ให้ ๆ เพราะจำใจได้ผลน้อยที่สุด ให้เพราะเกรงใจได้ผลขึ้นอีกนิดนึงแต่ก็ยังน้อย ให้ตามธรรมเนียมคือเค้าให้ ฉันก็ให้บ้าง มีซองมาฉันก็ใส่ไปตามธรรมเนียมก็ได้เพิ่มอีกนิด ให้เพราะเชื่อว่าการให้เป็นสิ่งที่ดีได้ผลมากขึ้นอีกนิดนึง ให้เพราะยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ ใจมันอยากจะให้เพราะศรัทธาได้ผลมากขึ้นอีก ให้เพื่อต้องการสละละวางได้ผลมากที่สุด เจตนาของผู้ให้เป็นตัวแปรแรก

สภาวะของผู้รับเป็นตัวแปรที่สอง พระพุทธองค์ทรงบอกว่า ทำทานกับเดรัจฉานได้ผล 100 เท่า ทำทานกับคนทุศีลได้ผล 1,000 เท่า ทำทานกับคนมีศีลได้ผล 10,000 เท่า ทำทานกับผู้ปราศจากกาม ทรงฌานอยู่ได้ผล 10,000,000 เท่า ทำทานกับพระอริยะได้ผลประมาณมิได้ ทำทานกับพระพุทธเจ้าได้ผลสูงสุด นั่นคือตัวแปรที่สองผู้รับ

ตัวแปรที่สามก็คือให้แล้ว ผู้รับเอาไปใช้อะไร ถ้าให้แล้วเอาไปกินเหล้าสำมะเลเทเมา บุญก็น้อย ให้แล้วเอาไปสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์สุข หรือเป็นธรรมะเป็นศาสนาเป็นสภาวะ บุญก็ใหญ่ขึ้น มีการขยายผลบุญต่อเนื่องมากขึ้น

ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้เราควรจะทำเช่นไร เราก็ตั้งเจตนาของเราให้สะอาดซึ่งเป็นส่วนที่เรา control ได้แน่ ๆ สภาวะของผู้รับเราก็ดูจิตท่านหน่อยว่าประมาณไหน จากนั้นดูกิจว่าจะเอาเงินไปทำอะไรเกิดผลดีต่อส่วนรวมกว้างไกลแค่ไหน ถ้าให้เพื่อสละไม่ต้องคิดอะไรเลย เสียสละให้ โล่ง จิตหลุดเป็นอิสระ

อานิสงส์จึงไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ให้ แต่ขึ้นอยู่กับความหมดจดของทุกตัวแปร แล้วแค่ไหนจึงพอดี แค่ที่เราเต็มใจจิตผ่องใสในการให้นั้น เมื่อตัวแปรทั้งสามคงที่ ผลจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับความเต็มใจและผ่องใสแห่งจิตทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ ดังนั้น สำคัญก็คือให้ด้วยความเต็มใจ จิตผ่องใส และให้ในขณะที่ผู้รับกำลังต้องการพอดี ดีที่สุด เพราะจิตผู้รับจะผ่องใสด้วย ผลทวีคูณสูงสุด

 

 

คำที่เกี่ยวข้อง :

ทำบุญ จิต สภาวะ เจตนา