Main navigation

ผู้ทำลายสงฆ์ที่ต้องเกิดในอบาย

Q ถาม :

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ มีอยู่หรือ

และมีหรือ ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้

A พระพุทธเจ้า ตอบ :

ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า

มีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

มี อุบาลี

และมีหรือ พระพุทธเจ้าข้า ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้

มี อุบาลี

พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ เป็นไฉน

ดูกรอุบาลี ภิกษุในธรรมวินัยนี้

ย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม

อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

อนึ่ง อุบาลี

ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม

อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

อนึ่ง อุบาลี

ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความสงสัยในความแตกกัน

อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่านี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรกอยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

อนึ่ง อุบาลี
ภิกษุย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในการแตกกันว่าเป็นอธรรม...

...มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความสงสัยในความแตกกัน...

... มีความสงสัยในอธรรมนั้น
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม...

...มีความสงสัยในอธรรมนั้น
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม...

...มีความสงสัยในอธรรมนั้น
มีความสงสัยในความแตกกัน

อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

อนึ่ง อุบาลี

ภิกษุย่อมแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม...

ย่อมแสดงสิ่งมิใช่วินัยว่าเป็นวินัย...

ย่อมแสดงวินัยว่ามิใช่วินัย...

ย่อมแสดงคำอันตถาคตมิได้ตรัสภาษิตไว้ ว่าเป็นคำอันตถาคตตรัสภาษิตไว้...

ย่อมแสดงคำอันตถาคตตรัสภาษิตไว้ ว่าเป็นคำอันตถาคตมิได้ตรัสภาษิตไว้...

ย่อมแสดงกรรมอันตถาคตมิได้ประพฤติมาว่าเป็นกรรมอันตถาคตประพฤติมาแล้ว...

ย่อมแสดงกรรมอันตถาคตประพฤติมาแล้วว่าเป็นกรรมอันตถาคตมิได้ประพฤติมาแล้ว...

ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้...

ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตบัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ตถาคตมิได้บัญญัติไว้...

ย่อมแสดงอนาบัติว่าเป็นอาบัติ...

ย่อมแสดงอาบัติว่าเป็นอนาบัติ...

ย่อมแสดงอาบัติเบาว่าเป็นอาบัติหนัก...

ย่อมแสดงอาบัติหนักว่าเป็นอาบัติเบา...

ย่อมแสดงอาบัติมีส่วนเหลือว่าเป็นอาบัติหาส่วนเหลือมิได้...

ย่อมแสดงอาบัติหาส่วนเหลือมิได้ว่าเป็นอาบัติมีส่วนเหลือ...

ย่อมแสดงอาบัติชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ...

ย่อมแสดงอาบัติไม่ชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติชั่วหยาบ...

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นอธรรม
มีความสงสัยในความแตกกัน

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความสงสัยในความแตกกัน

มีความสงสัยในธรรมนั้น
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นอธรรม

มีความสงสัยในธรรมนั้น
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม

มีความสงสัยในธรรมนั้น
มีความสงสัยในความแตกกัน

อำพรางความเห็น อำพรางความถูกใจ อำพรางความชอบใจ อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรมนี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ต้องเกิดในอบาย ตกนรก อยู่ชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้

ท่านพระอุบาลีทูลถามว่า

พระพุทธเจ้าข้า ก็ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์ ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้ เป็นไฉน

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

ดูกรอุบาลี

ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อมแสดงอธรรมว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในอธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม

ไม่อำพรางความเห็น ไม่อำพรางความถูกใจ ไม่อำพรางความชอบใจ ไม่อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัย นี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลายจงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้

อนึ่ง อุบาลี

ภิกษุย่อมแสดงธรรมว่าเป็นอธรรม ฯลฯ

ย่อมแสดงอาบัติชั่วหยาบว่าเป็นอาบัติไม่ชั่วหยาบ...

มีความเห็นในธรรมนั้นว่าเป็นธรรม
มีความเห็นในความแตกกันว่าเป็นธรรม

ไม่อำพรางความเห็น ไม่อำพรางความถูกใจ ไม่อำพรางความชอบใจ ไม่อำพรางความจริง ย่อมประกาศให้จับสลากว่า นี้ธรรม นี้วินัยนี้สัตถุศาสน์ ท่านทั้งหลาย จงจับสลากนี้ จงชอบใจสลากนี้

ภิกษุผู้ทำลายสงฆ์แม้นี้แล ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วยเหลือได้

 

 

 

ที่มา
พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๗ เล่มที่ ๔๑๑-๔๑๒

คำที่เกี่ยวข้อง :

ความสามัคคี วิบากกรรม สงฆ์