พระพุทธบิดาสวรรคต
เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงทราบข่าวว่าพระพุทธบิดาประชวรหนัก ได้เสด็จไปกรุงกบิลพัสดุ์ และทรงแสดงอนิจจาทิธรรมสูตร เมื่อพระพุทธบิดาได้ทรงสดับตรับฟังแล้ว บรรลุพระอรหัต และเสด็จสวรรคต
พระผู้มีพระภาคทรงเกิดธรรมสังเวช จึงตรัสกับภิกษุทั้งหลายให้มองพระพุทธบิดาซึ่งสวรรคตแล้ว ความตายนี้ไม่เว้นย่อมทำลายชีพแห่งสัตว์ทั่วสิ้นเป็นธรรมดาจะเลือกหน้าก็หามิได้
พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระมหากัสปะเถระให้เป็นธุระในการจัดเตรียมที่จะถวายพระเพลิงพระบรมศพ เหล่าเทพเทวดาในหมื่นโลกธาตุ มีท้าวสักกะเป็นประธาน ได้นำทิพย์กุฎาคารประกอบด้วยยอด ๕๐๐ ยอด กับวัตถุต่างๆ มีทิพย์จันทน์สุคันธชาติ มาร่วมทำจิตกาธานด้วย
ทรงประกอบพิธีสรงนํ้าพระบรมศพ โดยทรงยกพระเศียรศพพระบิดาด้วยพระหัตถ์ของพระองค์ แล้วทรงนำนํ้าสุคนธ์สรงพระบรมศพ และตรัสกับท่านพระสารีบุตรว่า
บุคคลใดมีจิตปรารถนาพระโพธิญาณ จงอุตสาหะ อภิบาลบำรุงบิดามารดา ประพฤติกุศลสุจริตธรรม จักสมปรารถนาทุกประการ
ในการจัดพิธีกรรมพระบรมศพพระพุทธบิดานี้ บรรดาขัตติยกษัตริย์ บริวารทั้ง ๖ พระนคร คือ กรุงกบิลพัสดุ์ กรุงเทวทหะ กรุงโกลิยนคร กรุงสักกนคร กรุงสุปวาสนคร และกรุงเวรนคร ได้มาร่วมด้วย