Main navigation

โรชะมัลลกษัตริย์

เหตุการณ์
มัลลกษัตริย์เตรียมการต้อนรับพระผู้มีพระภาคและภิกษุประมาณ ๑,๒๕๐ รูป ณ นครกุสินารา เหตุแรกเกิดให้พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตผักสดและแป้ง

มัลลกษัตริย์ชาวพระนครกุสินาราได้ทรงทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคกำลังเสด็จมาพระนครกุสินาราพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ประมาณ ๑,๒๕๐ รูป จึงได้ตั้งกติกาว่า ผู้ใดไม่ต้อนรับเสด็จพระผู้มีพระภาคจะต้องถูกปรับสินไหมเป็นเงิน ๕๐๐ กษาปณ์

โรชะมัลลกษัตริย์เป็นพระสหายของพระอานนท์ ได้เข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงที่พัก ท่านพระอานนท์ได้กล่าวกะท่านว่า การรับเสด็จพระผู้มีพระภาคของโรชะมัลลกษัตริย์โอฬารแท้

โรชะมัลลกษัตริย์ตรัสว่า พระองค์ต้อนรับเสด็จพระผู้มีพระภาคเช่นนี้เพราะกลัวพวกญาติปรับสินไหม พวกญาติต่างหากได้ตั้งกติกาไว้ว่าผู้ใดไม่ต้อนรับเสด็จพระผู้มีพระภาค จะต้องถูกปรับสินไหมเป็นเงิน ๕๐๐ กษาปณ์

ท่านพระอานนท์เกิดความไม่พอใจว่าเหตุไรโรชะมัลลกษัตริย์จึงได้ตรัสอย่างนี้ จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้ภาคให้ทรงกรุณาบันดาลให้โรชะมัลลกษัตริย์เลื่อมใสในพระธรรมวินัยนี้

พระผู้มีพระภาคตรัสว่าการที่จะบันดาลให้โรชะมัลลกษัตริย์เลื่อมใสในพระธรรมวินัยนั้น ทำได้ไม่ยากเลย แล้วทรงแผ่เมตตาจิตไปยังโรชะมัลลกษัตริย์

โรชะมัลลกษัตริย์อันพระเมตตาจิตของพระผู้มีพระภาคถูกต้องแล้ว ประสงค์จะเฝ้าพระผู้มีพระภาค เสด็จเข้าไปยังพระวิหาร

พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถา ทรงประกาศ ทานกถา ศีลกถา สัคคกถา โทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย และอานิสงส์ในความออกจากกาม

เมื่อทรงทราบว่าโรชะมัลลกษัตริย์มีจิตคล่อง มีจิตอ่อน มีจิตปราศจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้บังเกิดแก่โรชะมัลลกษัตริย์ ณ สถานที่ประทับนั้นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา

โรชะมัลลกษัตริย์ได้ทรงเห็นธรรมแล้ว ได้ทรงบรรลุธรรมแล้ว ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้ง ได้หยั่งลงสู่ธรรมแล้ว ข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย ถึงความเป็นผู้องอาจ ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา ได้กราบทูลขอให้พระผู้มีพระภาคและภิกษุทั้งหลายรับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัชบริขารของโรชะมัลลกษัตริย์ผู้เดียว อย่ารับของคนอื่น

พระผู้มีพระภาคตรัสว่าแม้อริยบุคคลผู้ได้เห็นธรรมแล้วด้วยญาณด้วยทัสสนะของพระเสขะเหมือนอย่างโรชะมัลลกษัตริย์ก็คงมีความปรารภอย่างนี้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นภิกษุทั้งหลายจึงรับปัจจัยของโรชะมัลลกษัตริย์ด้วย ของคนอื่นด้วย

ประชาชนทั้งหลายได้จัดตั้งลำดับภัตตาหารอันประณีตไว้ โรชะมัลลกษัตริย์ไม่ได้ลำดับที่จะถวายภัตตาหาร จึงตรวจดูโรงอาหาร ไม่เห็นของ ๒ อย่าง คือ ผักสด ๑ ของขบฉันที่ทำด้วยแป้ง ๑ จึงเสด็จเข้าไปถามท่านพระอานนท์ว่าถ้าพระองค์ทรงตกแต่งผักสดและของขบฉันที่ทำด้วยแป้งถวาย พระผู้มีพระภาคจะทรงรับหรือไม่

พระผู้มีพระภาคตรัสให้โรชะมัลลกษัตริย์ทรงตกแต่งผักสดและของขบเคี้ยวที่ทำด้วยแป้งถวายได้

วันรุ่งขึ้น โรชะมัลลกษัตริย์น้อมถวายผักสดและของขบเคี้ยวที่ทำด้วยแป้งนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสให้โรชะมัลลกษัตริย์ประเคนแก่ภิกษุสงฆ์ ภิกษุทั้งหลายรังเกียจ ไม่รับประเคน พระผู้มีพระภาคจึงตรัสให้ภิกษุทั้งหลายรับประเคน

พระพุทธานุญาตผักและแป้ง

เพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น เพราะเหตุแรกเกิดนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตภิกษุทั้งหลายว่า ทรงอนุญาตผักสดทุกชนิดและของขบฉันที่ทำด้วยแป้งทุกชนิด

 

 

อ่าน โรชะมัลลกษัตริย์

 

อ้างอิง
โรชะมัลลกษัตริย์ พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ ข้อที่ ๘๘
ลำดับที่
11

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ