สามัคคีธรรม
พระอนุรุทธะ พระนันทิยะ และพระกิมพิละยังปรองดองกัน ไม่วิวาทกัน มองดูกันด้วยดวงตาอันเป็นที่รักอยู่ ด้วยวิธีอย่างนี้คือ
ต่างก็คิดว่าเป็นลาภของตน ตนได้ดีแล้ว ที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อนพรหมจารี ได้เข้าไปตั้งเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรมไว้ในท่านเหล่านี้ ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ วางจิตของตนให้เป็นไปตามอำนาจจิตของท่านเหล่านี้เท่านั้น กายต่างกันก็จริง แต่จิตเป็นเหมือนดวงเดียวกัน
ทั้งสามรูปเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรเผากิเลส มีตนส่งไปอยู่ด้วยการดูแล เกื้อกูลกันดังนี้
- รูปใดบิณฑบาตกลับจากบ้านก่อน รูปนั้นก็ปูอาสนะ ตั้งน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้าไว้ ล้างสำรับกับข้าวแล้วตั้งไว้ ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้
- รูปใดบิณฑบาตกลับจากบ้านทีหลัง ถ้ามีอาหารที่ฉันแล้วเหลืออยู่ ถ้าต้องการก็ฉัน ถ้าไม่ต้องการ ก็เททิ้งในที่ปราศจากของเขียวสด หรือล้างเสียในน้ำที่ไม่มีตัวสัตว์ รูปนั้นรื้ออาสนะเก็บน้ำล้างเท้า ตั่งรองเท้า กระเบื้องเช็ดเท้า ล้างสำรับกับข้าวแล้วเก็บไว้ เก็บน้ำฉันน้ำใช้ กวาดโรงฉัน
- รูปใดเห็นหม้อน้ำฉัน หม้อน้ำใช้ หรือหม้อน้ำในวัจจกุฎีว่างเปล่า รูปนั้น ก็ตักน้ำตั้งไว้ ถ้ารูปนั้นไม่สามารถ ก็กวักมือเรียกเพื่อนมา แล้วช่วยกันตักยก เข้าไปตั้งไว้ แต่พวกข้าพระพุทธเจ้ามิได้บ่นว่า
- และนั่งประชุมกันด้วยธรรมมีกถาตลอดคืนยันรุ่งทุกๆ ๕ วัน