เจ้าหญิงโรหิณี
พระอนุรุทธเถระกล่าวกับพระนางโรหิณีผู้เป็นน้องสาวซึ่งป่วยเป็นโรคผิวหนังให้ขายเครื่องประดับเพื่อนำมาทำบุญสร้างโรงฉัน ๒ ชั้น ถวายพระสงฆ์ ทำพื้นชั้นบนให้เรียบ กวาดพื้นชั้นล่างแล้วปูอาสนะไว้ และตั้งหม้อน้ำดื่มไว้เสมอๆ เมื่อสร้างเสร็จ พระนางได้ทรงทำกิจมีการกวาดพื้นล่างเป็นต้นเนือง ๆ พวกภิกษุก็ได้มานั่งที่โรงฉันนี้เสมอ ๆ
ต่อมาพระนางได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขถวายโรงฉันและภัตตาหาร เมื่อเสร็จภัตกิจแล้วพระพุทธเจ้าได้ถามว่า นี้เป็นทานของใคร ซึ่งพระอนุรุทธะก็กราบทูลว่า เป็นทานของพระนางโรหิณี พระพุทธเจ้าจึงให้คนไปตามพระนางมา แล้วทรงตรัสเล่าอดีตกรรม เมื่อครั้งที่นางเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสีว่า นางได้ผูกโกรธหญิงนักฟ้อนของพระราชาคนหนึ่ง และต้องการให้ทุกข์เกิดแก่หญิงนั้น จึงเอาผงหมามุ้ยโรยบนตัวและที่นอนของหญิงนักฟ้อน จนนางคันเป็นแผลพุพองได้รับความทุกข์ทรมานมาก
แล้วตรัสกับพระนางโรหิณีว่า กรรมนั่นที่ทำแล้วในกาลนั้น ส่งผลให้มาเป็นเช่นนี้ ความโกรธก็ดี ความริษยาก็ดี แม้เพียงเล็กน้อย ย่อมไม่ควรทำเลย
แล้วทรงตรัสพระคาถานี้ว่า
บุคคลพึงละความโกรธ สละความถือตัว ล่วงสังโยชน์ทั้งสิ้นได้ ทุกข์ทั้งหลายย่อมไม่ตกต้องบุคคลนั้น ผู้ไม่ข้องในนามรูป ไม่มีกิเลสเครื่องกังวล
เมื่อจบพระธรรมเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผล รวมทั้งพระนางโรหิณีก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล และมีผิวพรรณดุจทองคำ
พระนางจุติจากอัตภาพนี้แล้ว เกิดในภพดาวดึงส์ ได้เป็นผู้น่าเลื่อมใส ถึงความเป็นผู้มีรูปงามเลิศ
อ่าน คาถาธรรมบท โกธวรรค
อ่านอรรถกถาเรื่อง เจ้าหญิงโรหิณี