Main navigation

เจ้าวัปปศากยะ

เหตุการณ์
พระผู้มีพระภาคทรงแก้ทิฏฐิเจ้าวัปปศากยะ ผู้เป็นสาวกของนิครนธ์ เรื่อง ผลของกรรม เมื่อทรงแสดงธรรมจบ เจ้าวัปปศากยะประกาศตนเป็นอุบาสก ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต

พระผู้มีพระภาคได้ตรัสแก่เจ้าศากยะพระนามว่าวัปปะ พร้อมด้วยพระมหาโมคคัลลานะเมื่อครั้งประทับอยู่ในนิโครธาราม เมืองกบิลพัสดุ์ ว่า

อาสวะเหล่าใดก่อทุกข์ เดือดร้อน เกิดขึ้นเพราะการกระทำทางกาย วาจา ใจ และเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย

เมื่อบุคคลงดเว้นจากการกระทำนั้นแล้ว อาสวะเหล่านั้นที่ก่อทุกข์ เดือดร้อน ย่อมไม่มีแก่เขา เขาไม่ทำกรรมใหม่ด้วย รับผลกรรมเก่าแล้วทำให้สิ้นไปด้วย นี้เป็นปฏิปทาเผากิเลสให้พินาศ ผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้เอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา วิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน 

ฐานะที่เป็นเหตุให้อาสวะอันเป็นปัจจัยแห่งทุกขเวทนาพึงไปตามบุคคลในสัมปรายภพย่อมไม่มี

และเพราะอวิชชาดับไป วิชชาเกิดขึ้น อาสวะเหล่าที่ก่อทุกข์ เดือดร้อน ย่อมไม่มีแก่เขา นี้เป็นปฏิปทาเผากิเลสให้พินาศ ผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้เอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา วิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน 

ฐานะที่เป็นเหตุให้อาสวะอันเป็นปัจจัยแห่งทุกขเวทนาพึงไปตามบุคคลในสัมปรายภพย่อมไม่มี

เมื่อภิกษุมีจิตหลุดพ้นโดยชอบอย่างนี้แล้ว ย่อมบรรลุธรรมเป็นเครื่องอยู่เป็นนิตย์ ๖ ประการ คือ

เมื่อเห็นรูปด้วยจักษุ ฟังเสียงด้วยหู สูดกลิ่นด้วยจมูก ลิ้มรสด้วยลิ้น ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว ไม่ดีใจ ไม่เสียใจ มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะอยู่

เขาเมื่อเสวยเวทนามีกายเป็นที่สุดย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยเวทนามีกายเป็นที่สุด เมื่อเสวยเวทนามีชีวิตเป็นที่สุด ย่อมรู้ชัดว่า เราเสวยเวทนามีชีวิตเป็นที่สุด ย่อมรู้ชัดว่า เมื่อกายแตกสิ้นชีวิตไปเวทนาทั้งปวงอันไม่น่าเพลิดเพลินในโลกนี้ จักเป็นของเย็น


อ่าน วัปปสูตร

อ้างอิง
วัปปสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๑ ข้อที่ ๑๙๕ หน้า ๑๘๗-๑๙๐
ลำดับที่
8

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ