ทรงบัญญัติสิกขาบทการอุปสมบทกุลบุตรมีอายุหย่อน ๒๐ ปี
สมัยหนึ่ง มีเด็กชายพวกหนึ่ง มารดาบิดาได้อนุญาตให้ออกบวชด้วยคิดว่า เมื่อตนล่วงลับไปแล้ว ลูกตนจะพึงอยู่เป็นสุขและไม่ต้องลำบาก
ครั้นบวชแล้ว ภิกษุใหม่เหล่านั้นลุกขึ้น ร้องไห้วิงวอน เพื่อต้องการฉันอาหารในยามราตรี แล้วยังถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะรดเสนาสนะ
เมื่อความทราบถึงพระผู้มีพระภาค จึงรับสั่งให้ประชุมภิกษุสงฆ์และได้ทรงติเตียนว่า เหตุใดเมื่อรู้อยู่ ยังให้บุคคลมีอายุหย่อน ๒๐ ปี อุปสมบท เพราะบุคคลมีอายุหย่อน ๒๐ ปี เป็นผู้ไม่อดทนต่อเย็น ร้อน หิวกระหาย เป็นผู้มีปกติไม่ทนทานต่อสัมผัสแห่งเหลือบ ยุง ลม แดด สัตว์เสือกคลาน ต่อคำกล่าวที่เขากล่าวร้าย อันมาแล้วไม่ดี ต่อทุกขเวทนาทางกาย อันกล้าแข็ง เผ็ดร้อน ไม่เป็นที่ยินดี ไม่เป็นที่พอใจ อันอาจผลาญชีวิตได้ ที่เกิดขึ้นแล้ว การกระทำเหล่านี้ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่งของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว
แล้วทรงได้บัญญัติสิกขาบทว่า
ภิกษุใดรู้อยู่ว่า บุคคลมีอายุหย่อน ๒๐ ปี ให้อุปสมบท บุคคลนั้นไม่เป็นอุปสัมบันด้วย ภิกษุทั้งหลายนั้นถูกติเตียนด้วย นี้เป็นปาจิตตีย์ในเรื่องนั้น