พระวักกลิเถระ
พระวักกลิกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า ตนเองติเตียนตนเองโดยศีลไม่ได้ แต่มีความรำคาญและมีความเดือดร้อนเพราะประสงค์จะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค แต่ไม่มีกำลังพอที่จะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคได้
พระพุทธเจ้าจึงตรัสกัลพระวักกลิว่า ร่างกายอันเปื่อยเน่านี้ จะมีประโยชน์อะไร ผู้ใด เห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นเรา ผู้ใดเห็นเรา ผู้นั้นชื่อว่าย่อมเห็นธรรม แล้วทรงแสดงธรรมต่อไปว่า
รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ไม่ควรที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตนของเรา
อริยสาวกเมื่อได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายทั้งในรูป ทั้งในเวทนา ทั้งในสัญญา ทั้งในสังขาร ทั้งในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว ย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี
พระวักกลิกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า ตนไม่เคลือบแคลงว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่เที่ยง
ไม่สงสัยว่า สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักใคร่ก็ดี ในสิ่งนั้น มิได้มีแก่ตน
อ่าน วักกลิสูตร