อนาถบิณฑิกคหบดีสร้างพระเชตวัน
อนาถบิณฑิกคหบดีเป็นคนมีมิตรสหายมาก มีวาจาน่าเชื่อถือ ระหว่างเดินทางจากเมืองราชคฤห์ กลับพระนครสาวัตถี ได้ชักชวนชาวบ้านระหว่างทางให้สร้างอาราม สร้างวิหาร เริ่มบำเพ็ญทาน เนื่องจากขณะนี้พระพุทธเจ้าอุบัติได้ในโลกแล้ว และพระองค์จะเสด็จผ่านมาทางนี้ตามที่ตนได้นิมนต์ไว้
เมื่ออนาถบิณฑิกคหบดีไปถึงพระนครสาวัตถี ได้ตรวจดูรอบพระนคร เห็นควรว่าพระอุทยานของเจ้าเชตราชกุมารเหมาะเป็นที่ประทับของพระผู้มีพระภาค เนื่องจากเป็นสถานที่ไม่ไกล ไม่ใกล้จากหมู่บ้าน มีคมนาคมสะดวก ชาวบ้านไปมาได้ง่าย กลางวันมีคนน้อย กลางคืนเงียบ มีเสียงอึกทึกน้อย ปราศจากกลิ่นไอของคน เป็นสถานควรแก่การประกอบกรรมในที่ลับของมนุษย์ชน สมควรเป็นที่หลีกเร้น จึงไปเข้าเฝ้าเจ้าเชตราชกุมาร ให้พระองค์ประทานพระอุทยาน เพื่อสร้างพระอาราม
เจ้าเชตราชกุมารตกลงขายอารามโดยให้ลาดทรัพย์เป็นโกฏิ อนาถบิณฑิกคหบดีจึงสั่งให้คนเอาเกวียนบรรทุกเงินออกมาเรียงลาด ณ อารามเชตวัน โดยเงินที่ขนออกมาในครั้งเดียวไม่พอที่จะปูลาดให้เต็มอาราม ยังเหลือพื้นที่ว่างอยู่เล็กน้อยใกล้ซุ้มประตู อนาถบิณฑิกคหบดี จึงสั่งให้ขนเงินออกมาอีกเพื่อเรียงให้เต็มพื้นที่ เจ้าเชตราชกุมารทรงเห็นแรงศรัทธาของคหบดีที่บริจาคเงินมากมาย จึงยกที่ว่างเล็กน้อยนั้นให้แก่คหบดี
ฝ่ายคหบดีเห็นว่าเจ้าเชตราชกุมาร ทรงเรืองพระนาม มีคนรู้จักมาก จึงได้ถวายที่ว่างนั้นแก่เจ้าเชตราชกุมาร ซึ่งพระองค์รับสั่งให้สร้างซุ้มประตูลงในที่ว่างนั้น ส่วนอนาถบิณฑิกคหบดีได้ให้สร้างวิหารหลายหลังไว้ในพระเชตวัน สร้างบริเวณ ซุ้มประตู ศาลาหอฉัน โรงไฟ กัปปิยกุฎี วัจจกุฎี สร้างที่จงกรมและโรงจงกรม บ่อน้ำและศาลาบ่อน้ำ เรือนไฟและศาลาเรือนไฟ สร้างสระโบกขรณีและสร้างมณฑป