ทัพพมัลลกุมาร
ในอดีตชาติ ทัพพมัลลกุมารได้เกิดในกรุงหงสาวดี ในสมัยของพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ได้เห็นพระบรมศาสดาทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งภิกษุผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายด้านการผ้าปูลาดเสนาสนะ ทัพพมัลลกุมารจึงมุ่งหวังอยากจะเป็นเลิศในด้านนี้บ้าง ท่านจึงเสริมสร้างอธิการ ปรารถนาฐานันดรนั้น พระบรมศาสดาปทุมุตตระทรงพยากรณ์ว่าท่านจะได้เป็นภิกษุผู้เลิศฝ่ายเสนาสนปัญญาปกะในสมัยพระพุทธเจ้าพระโคดม
ต่อมาได้เกิดในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี ทัพพมัลลกุมารได้พูดตู่สาวกของพระพุทธเจ้า ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ ได้เป็นผู้ถวายข้าวสุกที่หุงด้วยน้ำนมแก่พระเถระทั้งหลาย
ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสปะ ได้บวชในช่วงที่ศาสนาเสื่อมโทรม ท่านพร้อมภิกษุอื่นรวม ๗ รูป เห็นภิกษุเหล่าอื่นไม่กระทำความเคารพในพระศาสนา ได้เห็นความอุบาทว์อันร้ายแรงแสดงเหตุว่าพระศาสนาจะสิ้นสูญ จึงเกิดความสังเวช คิดกันว่าเว้นพระศาสนาเสีย ไม่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ จึงเข้าไปสู่ป่าใหญ่ ได้ไปบำเพ็ญสมณธรรมบนยอดเขาสูง โดยปีนบันไดขึ้นไป และตกลงกันว่า ผู้ที่รู้กำลังจิตของตน ๆ จักผลักบันไดลง ผู้ที่ยังมีความอาลัยในชีวิตให้ลงไป อย่าเป็นผู้ต้องเดือดร้อนในภายหลังเลย ภิกษุทุกรูปได้ผลักบันไดลง และบำเพ็ญสมณธรรม
ในวันที่ ๕ พระเถระรูปหนึ่งบรรลุพระอรหันต์ และในวันที่ ๗ พระเถระอีกรูปหนึ่งบรรลุอนาคามิผล จุติจากภพนั้นแล้ว บังเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ส่วนภิกษุรูปอื่นๆ เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ ประกอบความเพียร ได้ไปยังเทวโลกและมนุษยโลกตลอดพุทธันดรหนึ่ง
ในกาลของพระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน พระทัพพเถระนี้กำเนิดในพวกมัลลกษัตริย์ นครกุสินารา มารดาของท่านเสียชีวิตขณะคลอดลูก คนทั้งหลายจึงนำเอาร่างที่ตายไปป่าช้า ยกขึ้นสู่เชิงตะกอนแล้วใส่ไฟ เพราะกำลังความร้อนของไฟ ทำให้พื้นท้องของนางแยกออกเป็นสองส่วน ทารกลอยขึ้นด้วยกำลังบุญของตนแล้วตกลงที่กองไม้ ผู้เป็นยายได้ตั้งชื่อว่า ทัพพะ เพราะตกไปที่เสาไม้มีแก่น จึงรอดชีวิต เมื่อท่านมีอายุได้ ๗ ขวบ ได้เห็นพระศาสดามีจิตเลื่อมใส จึงขอบวช เมื่อพระบรรพชาบอกตจปัญจกัมมัฏฐานแล้ว ทัพพมัลลกุมารบรรลุโสดาปัตติผลในขณะปลงเกลียวผมครั้งแรก บรรลุสกทาคามิผลในขณะปลงผมครั้งที่สอง บรรลุอนาคามิผลในขณะปลงผมครั้งที่สาม และบรรลุพระอรหัตผลเมื่อปลงผมเสร็จ
ด้วยผลแห่งการประพฤติพรหมจรรย์ ท่านจึงหลุดพ้นจากกิเลสเมื่อมีอายุได้ ๗ ขวบ ด้วยผลที่ถวายข้าวสุกผสมน้ำมัน จึงเป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ ด้วยบาปเพราะกล่าวตู่พระขีณาสพ จึงลูกคนโจทมากมาย
ท่านพระทัพพมัลลบุตรประสงค์จะอุทิศกายช่วยขวนขวายกิจของสงฆ์โดยทูลพระศาสดาขอตำแหน่งตำแหน่งปูลาดเสนาสนะและตำแหน่งภัตตุทเทสก์ พระทัพพมัลลบุตรได้จัดแจงเสนาสนะแก่ภิกษุได้อย่างเหมาะสมและสามารถจัดได้ทั้งที่ใกล้และไกลด้วยฤทธิ์ของท่าน
พระพุทธองค์ได้ทรงแต่งตั้งพระทัพพมัลลเถระไว้ในตำแหน่งแห่งภิกษุผู้เลิศกว่าบรรดาภิกษุผู้จัดแจงเสนาสนะ