Main navigation

ความเจริญทางโลกและทางธรรมไปด้วยกันได้หรือไม่

Q ถาม :

ถ้าเราต้องการเจริญทางธรรมในขณะที่ยังต้องใช้ชีวิตทางโลกอยู่ควรจะทำอย่างไร แล้วความเจริญทางโลกและความเจริญทางธรรมไปด้วยกันได้หรือไม่

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

ปรับให้เกิดทิฏฐุชุกัมม์ คือ ปรับความเห็นให้ตรงสัจจะ ดำเนินชีวิตต่อไปอย่างสัมมาทิฏฐิ สัมมาปฏิปทา

สัมมาทิฏฐิ คือ ทัศนคติถูกต้องตรงสัจธรรม สัมมาปฏิปทา คือ ปฏิบัติถูกต้องตรงคุณธรรม เมื่อสองส่วนนี้ไปด้วยกันได้ดีก็จะเจริญ 

ความเจริญมีอยู่ ๒ ส่วน ก็คือความเจริญทางโลกและความเจริญทางธรรม ความเจริญทางธรรมในชั้นต้นก็อาศัยความเจริญทางโลกเหมือนกัน และความเจริญทางโลกเองก็อาศัยความเจริญทางธรรม พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่างเลวย่อมได้เป็นใหญ่ในโลก คือ ประสบความสำเร็จเป็นเลิศในโลกในวิชาชีพของตนเอง ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่างกลางย่อมได้ไปสู่สวรรค์ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่างบริบูรณ์ย่อมสำเร็จในพุทธะ นั่นหมายความว่า ความเจริญทางโลกนั้นอาศัยพรหมจรรย์ อันนี้แน่นอน

ในบางบริษัทกำหนดให้ทุกคนในองค์กรปฏิบัติธรรมหมดเลย ซึ่งหลังจากที่ทำเช่นนั้นแล้วก็ปรากฏว่าผลประกอบการดีขึ้นมากอย่างชนิดที่ผิดหูผิดตา แต่ก่อนอัตราความเจริญเติบโตของผลประกอบการอาจจะขึ้นเป็นกราฟอย่างนี้ พอเริ่มปฏิบัติธรรมกันขึ้น performance เป็น exponential เลย กราฟชันมาก ก็มีหลายองค์กรที่ทำอย่างนี้มากขึ้นทุกที ซึ่งพิสูจน์ได้ชัดว่าความเจริญทางธรรมส่งเสริมความเจริญทางโลก

แล้วความเจริญทางโลกส่งเสริมความเจริญทางธรรมได้ไหม ได้ การที่เรามีทรัพย์ก็ทำให้เราได้ทำทาน การที่เรามีตำแหน่งก็ทำให้เรามีโอกาสที่จะช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ในความรับผิดชอบในความดูแล หรือคนในแวดวงของเรา การที่เรามีชื่อเสียงก็สามารถที่จะเหนี่ยวนำคนอื่นให้คล้อยตามเป็นสัมมาทิฏฐิตามได้ด้วย อย่างนี้เป็นต้น

มีหลายท่านที่เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม เช่น ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ค้าขายเจริญทางโลกร่ำรวย และเจริญทางธรรมบรรลุโสดาบัน ท่านพระนางวิสาขาเจริญทางโลกคือพ่อรวยปู่รวย มีทรัพย์มหาศาล และเจริญทางธรรมบรรลุโสดาบัน อุปัฏฐากอุปถัมภ์พระในพระนครสาวัตถีทั้งหมด ยังมีท่านอื่นอีกมาก แต่สองท่านได้รับการยกย่องที่สุดว่าเป็นบุคคลมงคลที่คนปรารถนาเชิญไปงานมงคลเสมอ เพราะใช้ความเจริญทั้งสองอย่างสนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างยิ่งใหญ่

ดังนั้นความเจริญทางโลกก็ส่งเสริมความเจริญทางธรรม ความเจริญทางธรรมก็ส่งเสริมความเจริญทางโลก ยกเว้นตอนจะสำเร็จธรรมชั้นสูง ความเจริญทางโลกไม่ช่วย พระพุทธเจ้าก็เลยสละราชบัลลังก์ ถ้าความเจริญทางโลกช่วยให้บรรลุอรหันต์ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องสละ แสดงว่าในการบรรลุธรรมชั้นสูง ความเจริญทางโลกไปไม่ถึง เอื้อมไม่ถึง แต่ความเจริญทางธรรมในระดับต้นและระดับกลาง ความเจริญทางโลกช่วยได้บ้าง

ในเมื่อเราต้องการทั้งสองอย่าง ก็ทำให้ส่งเสริมซึ่งกันและกัน คู่ขนานกันไป จนถึงจุดหนึ่งที่มันอิ่มแล้ว มันได้ที่แล้ว ขอเป็นชาติสุดท้ายแล้ว ก็จะสละทางโลกสู่การบรรลุธรรมชั้นสูง ก็ดีเลย สาธุ