กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมใดมีโทษมากที่สุด
กราบเรียนถามท่านอาจารย์ครับ ทีฆตปัสสีนิครนถ์ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม กรรมทางใดมีโทษมากที่สุด พระองค์ทรงตอบว่ามโนกรรม เหตุใดมโนกรรมจึงเป็นกรรมที่หนักสุดเมื่อเทียบกับวจีกรรมหรือกายกรรม เพราะมโนกรรมเป็นแค่คิด ยังมิได้กระทำใด ๆ ครับ
มโนกรรมมีอานุภาพมากกว่าวจีกรรมและกายกรรม ด้วยเหตุผลดังนี้ครับ
๑. เหตุผลแห่งความเป็นต้นกำเนิด เพราะจิตสังขารปรุงมโนกรรม มโนกรรมปรุงวจีกรรม หรือและกายกรรม หากไม่มีมโนกรรม วจีกรรมและกายกรรมก็ไม่เกิด
๒. เหตุผลแห่งอานุภาพ พระพุทธองค์ทรงเปรียบว่า ทหารทั้งกองทัพไม่อาจฆ่าประชาชนได้หมด แต่ผู้มีฤทธิ์ทางใจท่านเดียว หากประสงค์ก็สามารถฆ่าประชาชนได้หมดด้วยจิตตานุภาพ
๓. เหตุผลของพลังสะท้อนกลับ เมื่อบุคคลทำกรรมต่อผู้ไม่มีสมาธิย่อมได้รับวิบากใกล้เคียงกับที่ทำ แต่หากทำกรรมต่อผู้ทรงฌาน ย่อมได้รับวิบากมากกว่าที่ทำหลายเท่า
พระพุทธองค์ทรงเล่าเรื่องจริงว่า แต่กาลก่อนมีอาณาจักรที่รุ่งเรืองชื่อมาตังคะ แต่กาลต่อมา ชาวเมืองมาตังคะดูหมิ่นประทุษร้ายผู้ทรงฌาน แม้ผู้ทรงฌานท่านไม่ถือโทษ แต่ด้วยวิบากกรรมนั้น เมืองมาตังคะทั้งเมืองล่มสลาย กลายเป็นป่ารกร้างไปในที่สุด
๔. เหตุผลแห่งความเป็นอิสระเหนือ เมื่อดับกาย ดับวาจา จิตยังตั้งอยู่ได้ เป็นอรูปพรหม แต่เมื่อดับจิต กายและวาจาไม่อาจตั้งอยู่ได้ ยกเว้นดับชั่วคราวเช่นอสัญญีพรหม
๕. เหตุผลแห่งผลการชำระล้าง เมื่อมีกายบริสุทธิ์หรือวาจาบริสุทธิ์ไม่สามารถทำให้จิตบริสุทธิ์ได้ แต่เมื่อทำจิตให้บริสุทธิ์แล้ว ย่อมยังกายและวาจาให้บริสุทธิ์แน่นอน
ด้วยเหตุผลดังกล่าวพระผู้มีพระภาคจึงตรัสว่าโลกทั้งปวงมีจิตชักนำมา มีจิตชักนำไป และด้วยเหตุนั้น มโนกรรมจึงใหญ่กว่า ให้ผลหนักกว่าวจีกรรมและกายกรรม
นั่นเป็นสัจธรรม