Main navigation

สิ่งที่ควรเสพและไม่ควรเสพ

Q ถาม :

บุคคล จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ นิคม ประเทศ ที่ควรเสพและไม่ควรเสพ

A พระสาวกสมัยพุทธกาล ตอบ :

ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตรเรียกภิกษุทั้งหลาย กล่าวว่า

ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

แม้จีวรก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

แม้บิณฑบาตก็ควรทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

แม้เสนาสนะก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

แม้คาม (บ้าน) นิคม ชนบท และประเทศก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี

 

ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว

ในบุคคล ๒ จำพวก พึงรู้บุคคลใดว่า เมื่อเราเสพบุคคลนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม บริขารแห่งชีวิต คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร อันเราผู้เป็นบรรพชิตพึงรวบรวมไว้ บริขารแห่งชีวิตเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นได้โดยยาก และเราออกบวชเป็นบรรพชิตเพื่อประโยชน์แห่งความเป็นสมณะใด ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะของเรานั้น ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

บุคคลนั้นรู้ในกลางคืน ก็ไม่ต้องลา พึงหลีกไปเสียในกลางคืน หรือรู้ในกลางวัน ก็ไม่ต้องลา พึงหลีกไปเสียในกลางวัน ไม่พึงติดตามบุคคลนั้น

พึงรู้บุคคลใดว่า เมื่อเราเสพบุคคลผู้นี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ ก็แลบริขารแห่งชีวิต คือ จีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัชบริขาร อันเราผู้เป็นบรรพชิตพึงรวบรวมไว้ บริขารแห่งชีวิตเหล่านั้นย่อมเกิดขึ้นโดยไม่ยาก และเราออกบวชเป็นบรรพชิต เพื่อประโยชน์แห่งความเป็นสมณะใด ประโยชน์แห่งความเป็นสมณะของเรานั้น ย่อมถึงความบริบูรณ์ด้วยภาวนา

รู้บุคคลนั้นแล้ว พึงติดตามไปจนตลอดชีวิต ไม่พึงหลีกเลี่ยงไปเสีย แม้ถูกขับไล่ ก็พึงติดตามบุคคลนั้นไปจนตลอดชีวิต ไม่พึงหลีกเลี่ยงไปเสีย

คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้บุคคลก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้จีวรก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว

ในจีวร ๒ อย่าง พึงรู้จีวรใดว่า เมื่อเราเสพจีวรนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม จีวรเห็นปานนี้ไม่ควรเสพ

พึงรู้จีวรใดว่า เมื่อเราเสพจีวรนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ จีวรเห็นปานนี้ควรเสพ

คำที่เรากล่าวว่า แม้จีวรก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี เราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้บิณฑบาตก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว

ในบิณฑบาต ๒ อย่างนี้ พึงรู้บิณฑบาตใดว่า เมื่อเราเสพบิณฑบาตนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อม
เสื่อม บิณฑบาตเห็นปานนี้ ไม่ควรเสพ

พึงรู้บิณฑบาตใดว่า เมื่อเราเสพบิณฑบาตนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ บิณฑบาตเห็นปานนี้
ควรเสพ

คำที่เรากล่าวว่า แม้บิณฑบาตก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้เสนาสนะก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว

ในเสนาสนะ ๒ อย่างนั้น พึงรู้เสนาสนะใดว่า เมื่อเราเสพเสนาสนะนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม เสนาสนะเห็นปานนี้ไม่ควรเสพ

พึงรู้เสนาสนะใดว่า เมื่อเราเสพเสนาสนะนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ เสนาสนะเห็นปานนี้ ควรเสพ

คำที่เรากล่าวว่า แม้เสนาสนะก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

ก็คำที่เรากล่าวว่า แม้คาม (บ้าน) นิคม ชนบท ประเทศ ก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยอะไรกล่าวแล้ว

ในคาม นิคม ชนบท ประเทศ ๒ อย่างนั้น พึงรู้คามนิคม ชนบท ประเทศใดว่า เมื่อเราเสพคามนิคมนี้ อกุศลธรรมย่อมเจริญ กุศลธรรมย่อมเสื่อม คาม นิคม ชนบท ประเทศ เห็นปานนี้ไม่ควรเสพ

พึงรู้คามนิคมใดว่า เมื่อเราเสพคาม นิคม ชนบท ประเทศนี้ อกุศลธรรมย่อมเสื่อม กุศลธรรมย่อมเจริญ คาม นิคม ชนบท ประเทศ เห็นปานนี้ควรเสพ

คำที่เรากล่าวว่า ดูกรอาวุโสทั้งหลาย แม้คาม นิคม ชนบท ประเทศก็พึงทราบโดยส่วน ๒ คือ ควรเสพก็มี ไม่ควรเสพก็มี นั้นเราอาศัยข้อนี้กล่าวแล้ว

 

 

 

ที่มา
เสวนาสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ ข้อที่ ๒๑๐ หน้า ๒๙๔-๒๙๖

คำที่เกี่ยวข้อง :

กุศล อกุศล